นครศรีธรรมราช
จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดในประเทศไทย มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้และมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ (รองจากสุราษฎร์ธานี) ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอำเภอมากที่สุดในภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 780 กิโลเมตร มีจังหวัดที่อยู่ติดกันได้แก่ สงขลา พัทลุง ตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี
จังหวัดนครศรีธรรมราช | |
---|---|
จังหวัด | |
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Nakhon Si Thammarat |
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง : กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช วัดพระมหาธาตุ สนามกีฬานครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช | |
ธง ตรา | |
คำขวัญ: เราชาวนครฯ อยู่เมืองพระ มั่นอยู่ในสัจจะศีลธรรม กอปรกรรมดี มีมานะพากเพียร ไม่เบียดเบียนทำอันตรายผู้ใด | |
![]() แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราชเน้นสีแดง | |
ประเทศ | |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | สมชาย ลีหล้าน้อย (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
• นายก อบจ. | วาริน ชิณวงศ์ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 9,942.502 ตร.กม. (3,838.821 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 18 |
ประชากร (พ.ศ. 2566) | |
• ทั้งหมด | 1,540,953 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 8 |
• ความหนาแน่น | 154.98 คน/ตร.กม. (401.4 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 26 |
รหัส ISO 3166 | TH-80 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | นคร เมืองคอน คอน นครศรี ตามพรลิงก์ ลิกอร์ คิวคูตอน ตันเหมยหลิง ละคร |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | แซะ |
• ดอกไม้ | ราชพฤกษ์ |
• สัตว์น้ำ | ปลาหมอ |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000 |
• โทรศัพท์ | 0 7535 6952 |
• โทรสาร | 0 7535 6531 |
เว็บไซต์ | www |
ประวัติศาสตร์
หลักฐานในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราชพบตั้งแต่ยุคหินกลางและยุคหินใหม่ พบเครื่องมือหินต่าง ๆ พบระนาดหินที่อำเภอท่าศาลา ต่อมาในยุคโลหะได้พบหลักฐานทางโบราณคดี คือ กลองมโหระทึกสำริด 2 ใบ ที่บ้านเกตุกาย ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง และที่คลองคุดด้วน อำเภอฉวาง
สมัยโบราณ
ในสมัยโบราณนครศรีธรรมราชอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรศรีวิชัยซึ่งมีศูนย์กลางแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช หรือเมืองไชยา หรือเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 - 16 ดังปรากฏในจารึกภาษาสันสกฤตวัดเสมาเมือง กล่าวถึงพระเจ้ากรุงศรีวิชัยพระนามว่าศรีมหาราชาทรงสร้างปราสาทอิฐสามองค์เพื่อถวายแด่พระผู้ผจญมาร (พระสมณโคดม) พระปัทมปาณี และพระวัชรปาณี อาณาจักรศรีวิชัยนับถือพระพุทธศาสนานิกายมหายานและนับถือพระโพธิสัตว์ ต่อมาในพ.ศ. 1568 พระเจ้าราเชนทระโจฬะที่ 1 (Rajendra Chola I) แห่งราชวงศ์โจฬะซึ่งมาจากแคว้นทมิฬในอินเดียใต้ ยกทัพเรือเข้ารุกรานแหลมมลายูและภาคใต้ของไทย ทำให้อำนาจของศรีวิชัยเสื่อมลงและบริเวณแหลมมลายูตกอยู่ภายใต้การปกครองของโจฬะอยู่เวลาหนึ่ง การล่าถอยออกไปของโจฬะ นำไปสู่กำเนิด อาณาจักรตามพรลิงค์ ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองตามพรลิงก์หรือนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน จารึกเมืองทันโจร์ (Tanjore Inscription) ซึ่งจารึกขึ้นในพ.ศ. 1573 บันทึกเมืองต่าง ๆ ที่พระเจ้าราเชนทระฯทรงพิชิตได้ปรากฏชื่อเมือง "มัทลิงกัม" (Madalingam) และบันทึกของขุนนางชาวจีนสมัยราชวงศ์ซ่งปรากฏชื่อเมือง "ตันหม่าลิ่ง" (單馬令 จีนยุคกลาง: tɑn mˠaX liᴇŋ) หมายถึงตามพรลิงก์ จักรวรรดิขอมแผ่ขยายอำนาจมายังภาคใต้ของไทยในระยะเวลาหนึ่งจากนั้นจึงเสื่อมไป

อาณาจักรตามพรลิงก์
ตามที่ปรากฏในจารึกวัดหัวเวียงที่อำเภอไชยา ว่าในพ.ศ. 1774 พระเจ้าผู้ปกครองเมืองตามพรลิงก์พระนามว่าศรีธรรมราชแห่งปทุมวงศ์ สันนิษฐานว่าราชวงศ์ปทุมวงศ์หรือราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชนี้อาจเป็นวงศ์ที่สืบเชื่อสายมาจากพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อความใน ตำนานเมืองนครศรีธรรมราช ว่าพญาศรีธรรมาโศกราชหนีมาจากเมืองอินทปัตถ์ (เมืองพระนคร) ตำแหน่งของผู้ปกครองเมืองตามพรลิงก์ในสมัยนี้เรียกว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" อาณาจักรตามพรลิงก์มีอำนาจเหนือเมืองสิบสองนักษัตร ประกอบไปด้วยสิบสองเมืองที่อยู่ภายใต้อำนาจของนครศรีธรรมราช ประกอบไปด้วยเมืองต่าง ๆ ในภาคใต้ของไทยไปจนถึงไทรบุรี กลันตัน และปาหังในประเทศมาเลเซีย ในสมัยของราชวงศ์ปทุมวงศ์อาณาจักรตามพรลิงก์ได้เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาเถรวาทลังกาวงศ์ ในสมัยของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชมีการเริ่มสร้างเจดีย์พระธาตุขึ้นซึ่งเป็นเจดีย์ให้เป็นแบบทรงระฆังคว่ำแบบลังกา พระเจ้าจันทรภาณุแห่งตามพรลิงก์ทรงยกทัพเรือข้ามมหาสมุทรอินเดียเข้ารุกรานเกาะลังกาในสมัยของพระเจ้าปรากรมพาหุที่ 2 (Parakramapahu II) แห่งลังกาและสามารถครอบครองดินแดนบางส่วนของเกาะลังกาได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
อาณาจักรตามพรลิงก์เสื่อมอำนาจลงในสมัยต่อมาและตกอยู่ภายใต้อำนาจของอาณาจักรสุโขทัย จากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชและสิหิงคนิทาน พระพุทธสิหิงค์ลอยมาจากลังกาจากนั้นมาหยุดพักที่หาดทรายแก้วเมืองนครศรีธรรมราชจากนั้นจึงลอยต่อไปยังทิศเหนือไปยังเชียงใหม่ อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในชินกาลมาลีปกรณ์ที่ว่าพระเจ้าโรจนราชหรือพ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัยเสด็จมายังนครศรีธรรมราชแล้วอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ซึ่งมาจากลังกาไปประดิษฐานไว้ที่สุโขทัย ในสมัยนี้ปรากฏชื่อเมือง "นครศรีธรรมราช" ขึ้นเป็นครั้งแรกในศิลาจารึกหลักที่ 1 ในความหมายว่าเมืองของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช นครศรีธรรมราชมีอิทธิพลต่อพุทธศาสนาของสุโขทัยอย่างมาก ดังข้อความในศิลาจารึกฯว่าพระเถระสุโขทัย "ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราชมา"
ในพ.ศ. 1808 ทัพเรือของอาณาจักรมัชปาหิตบนเกาะชวายกทัพเข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราช ชาวบ้านนำโดยชายชื่อว่า "พังพการ" ได้รวบรวมกำลังพลขับไล่ทัพของชวาออกไปได้สำเร็จ ต่อมาท้าวพิชัยเทพเชียงภวาแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาให้พระโอรสคือท้าวอู่ทองยกทัพเข้ารุกรานนครศรีธรรมราช ทัพของท้าวอู่ทองและพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชสู้รับกันที่บางสะพานจนนำไปสู่การแบ่งเขตแดนระหว่างพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชและท้าวอู่ทอง นับจากนั้นอาณาจักรนครศรีธรรมราชจึงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งต่อมากลายเป็นอาณาจักรอยุธยา ต่อมาเกิดโรคระบาดในเมืองนครศรีธรรมราช พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชองค์สุดท้ายพร้อมญาติวงศ์เสด็จหนีลงเรือออกทะเลหายสาบสูญ เมืองนครศรีธรรมราชจึงกลายเป็นเมืองร้างว่างผู้คน เชื้อสายปทุมวงศ์จึงสิ้นสุดลง
สมัยอยุธยา
เมื่อนครศรีธรรมราชกลายเป็นเมืองร้างจากโรคระบาดนั้น พระพนมทะเลศรีมเหสวัสดิทราธิราชผู้ครองเมืองเพชรบุรี ส่งพระโอรสคือพระพนมวังพร้อมทั้งนางสะเดียงทองมาสร้างเมืองใหม่คือเมืองนครดอนพระ เมื่อพระพนมวังสวรรคตพระโอรสของพระพนมวังคือเจ้าศรีราชาครองเมืองนครฯต่อมา ซึ่งเจ้าศรีราชาได้รับการแต่งตั้งจากพระพนมทะเลฯ เมืองเพชรบุรีให้เป็น "พญาศรีธรรมาโศกราช สุรินทรราชาสุรวงศ์ธิบดียุธิษเฐียร อภัยพีรีบรากรมพาหุ เจ้าพระยานครศรีธรรมราชมหานคร" หลังจากที่วงศ์ของพระพนมวังและเจ้าศรีราชาสิ้นสุดลง ขุนอินทาราเจ้าเมืองลานสกาจึงขึ้นมาเป็นผู้ครองนครศรีธรรมราชต่อมาชื่อว่าศรีมหาราชา แต่ศรีมหาราชาขุนอินทาราถูกพระราชอาญาจากทางอยุธยาจึงถูกปลดจากตำแหน่ง บุตรชายของขุนอินทาราขึ้นครองเมืองนครฯเป็นศรีมหาราชาองค์ต่อมา เมื่อวงศ์ศรีมหาราชาสิ้นสุดอาณาจักรอยุธยาจึงส่งขุนรัตนากรมาปกครองเมืองนครฯ จากนั้นมาฝ่ายอยุธยาจึงส่งผู้ปกครองนครศรีธรรมราชโดยตรง
ในพ.ศ. 1998 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงบัญญัติพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน นาทหารหัวเมือง ระบุตำแหน่ง "เจ้าพญาศรีธรรมาโศกราช ชาติเดโชไชยมไหสุริยาธิบดี อภัยพีรีปรากรมพาหุ" ศักดินาหนึ่งหมื่น เป็นผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช เมืองนครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นเอกหรือเมืองเจ้าพระยามหานคร มีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าพระยาเป็นเจ้าเมืองเป็นศูนย์กลางอำนาจการปกครองของอยุธยาในภาคใต้ เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาจึงมีการปรับปรุงซ่อมแซมกำแพงเมืองนครศรีธรรมราชเป็นกำแพงแบบก่ออิฐ เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาจึงปรากฏชื่อเมืองนครศรีธรรมราชว่า "ลิกอร์" (Ligor) ซึ่งแผลงมาจากคำว่านครฯ ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประมาณพ.ศ. 2144 ทัพเรือจากเมืองอุยงคตนะ (Ujong Tanah) หรือรัฐสุลต่านยะโฮร์ (Johor Sultanate รัฐยะโฮร์ในปัจจุบัน) ยกทัพเรือนำโดยลักษมณา (Laksamana) เข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราช พระยารามราชท้ายน้ำเจ้าเมืองนครฯป้องกันเมืองจากทัพเรือมลายูไม่สำเร็จ ทัพมลายูเข้าปล้นเมืองนครฯ แล้วกลับไปพระยารามราชท้ายน้ำเสียชีวิตในที่รบ
ในรัชสมัยสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ออกญากลาโหมสุริยวงศ์กุมอำนาจและส่งออกญาเสนาภิมุขยามาดะ นางามาซะ (ญี่ปุ่น: 山田長政; โรมาจิ: Yamada Nagamasa) ขุนนางชาวญี่ปุ่นมาเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อออกญากลาโหมสุริยวงศ์ทำการยึดอำนาจและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในพ.ศ. 2172 รายาอูงูแห่งรัฐปัตตานีและสุลต่านสุลัยมานแห่งสงขลาก่อการกบฎแข็งเมืองต่ออยุธยาในพ.ศ. 2173 พระเจ้าปราสาททองมีพระราชโองการให้ยามาดะ นางามาซะ ยกทัพเมืองนครศรีธรรมราชเข้าปราบกบฎของปัตตานีและสงขลาแต่ไม่สำเร็จ ยามาดะ นางามาซะถูกวางยาพิษที่เมืองนครฯ โดยพระราชโองการของพระเจ้าปราสาททองจนเสียชีวิต นายโอนินบุตรชายของนางามาซะขึ้นเป็นเจ้าเมืองนครฯ ต่อมาแต่ชาวเมืองนครฯ ลุกฮือขึ้นขับไล่นายโอนินและกลุ่มทหารญี่ปุ่นออกไปจากเมืองนครฯ ฮอลันดาเข้ามาตั้งสถานีการค้าในเมืองนครฯ ในพ.ศ. 2190 ยอดเจดีย์พระธาตุเมืองนครศรีธรรมราชหักโค่นลงมา พระเจ้าปราสาททองทรงให้มีการบูรณะสร้างยอดเจดีย์พระธาตุขึ้นใหม่

ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีการบูรณะปรับปรุงกำแพงเมืองนครศรีธรรมราชโดยมงซิเออร์เดอลามาร์ (Monsieur de la Mare) วิศวกรชาวฝรั่งเศสจนมีลักษณะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน หลังการประหารเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชจากเหตุการณ์ของศรีปราชญ์ นครศรีธรรมราชมีเจ้าเมืองคือพระยารามเดโช (ชู) ซึ่งมีเชื้อสายแขก เมื่อสมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษกยึดอำนาจจากสมเด็จพระนารายณ์ฯในพ.ศ. 2231 พระยารามเดโช (ชู) เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชไม่เข้าไปถือน้ำพิพัฒนสัตยาที่อยุธยา ในพ.ศ. 2235 สมเด็จพระเพทราชาทรงให้พระยาสุรสงครามเป็นแม่ทัพและพระยาราชบังสัน (หะซัน) เป็นแม่ทัพเรือ ยกทัพมาทั้งทางบกและทะเลเพื่อปราบกบฏเมืองนครฯ ทัพของพระเพทราชาใช้เวลาล้อมเมืองนครศรีธรรมราชอยู่นานถึงสามปีจึงสามารถเข้ายึดเมืองได้ พระเพทราชาทรงลดอำนาจเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชโดยยกหัวเมืองปักษ์ใต้ทั้งหมดขึ้นต่อสมุหกลาโหม ในพ.ศ. 2275 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงยกหัวเมืองภาคใต้ให้ขึ้นต่อเจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ (อู่) ว่าที่พระคลังโกษาธิบดี จนกระทั่งมีโปรดเกล้าแต่งตั้งพระยาไชยาธิเบศร์เป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราชขึ้นอีกครั้งในพ.ศ. 2285 ในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์พระยาราชสุภาวดีเป็นเจ้าเมืองนครฯ หลวงสิทธินายเวร (หนู) เป็นปลัดเมือง ต่อมาพระยาราชสุภาวดีความผิดถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าเมือง ปลัดเมืองหรือ "พระปลัดหนู" จึงรักษาการณ์เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชแทน
สมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์
หลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองพระปลัดหนูผู้รักษาเมืองนครศรีธรรมราชจึงตั้งตนขึ้นเป็นเจ้าเมืองและเป็นเจ้าชุมนุมนครศรีธรรมราช ในพ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงให้เจ้าพระยาจักรี (หมุด) ยกทัพธนบุรีเข้ารุกรานชุมนุมนครศรีธรรมราช ทัพของฝ่ายธนบุรีไม่สามารถเข้ายึดเมืองนครฯ ได้ทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องเสด็จนำทัพด้วยพระองค์เองลงมายึดเมืองนครศรีธรรมราชได้สำเร็จ ทำให้เจ้านครฯ (หนู) ต้องหลบหนีไปยังเมืองปัตตานีและต่อมาเจ้าพระยาจักรีสามารถจับตัวเจ้าหนูกลับมาได้ พระเจ้ากรุงธนบุรีฯ ให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนู) เข้ามารับราชการในกรุงธนบุรีและทรงแต่งตั้งให้เจ้านราสุริยวงศ์ซึ่งเป็นพระเจ้าหลานเธอในพระเจ้ากรุงธนบุรีมาปกครองเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาเมื่อเจ้านราสุริยวงศ์เจ้าเมืองนครฯ ถึงแก่พิราลัย สมเด็จพระเจ้าธนบุรีจึงมีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเมืองนครฯ (หนู) ออกไปปกครองเมืองนครศรีธรรมราชอีกครั้ง ได้รับพระราชทานพระสุพรรบัฏเป็น พระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรค์ พระเจ้านครศรีธรรมราช เจ้าขัณฑสีมา เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 11 ขึ้น 3 ค่ำ จุลศักราช 1138 (พ.ศ. 2319) ปีวอกอัฐศก ดำรงฐานะเป็นเจ้าประเทศราช
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชดำริว่าพระเจ้านครศรีธรรมราชมีความชราไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้จึงโปรดฯให้ออกจากตำแหน่ง และให้เจ้าอุปราช (พัฒน์) บุตรเขยเจ้านครฯ (หนู) ขึ้นเป็นเจ้าพระยาศรีธรรมาโศกราชฯเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) เมื่อวันอังคาร เดือน 8 แรม 11 ค่ำ จุลศักราช 1146 (พ.ศ. 2327) ปีมะโรงศก โดยมียศเพียงเจ้าพระยาตามประเพณีแต่เดิม เมืองนครศรีธรรมราชซึ่งมีฐานะเป็นประเทศราชมีเจ้ากษัตริย์ปกครองอยู่เป็นเวลาแปดปีจึงเปลี่ยนฐานะเป็นหัวเมืองเอกตามเดิม ในพ.ศ. 2328 สงครามเก้าทัพ แกงหวุ่นแมงยีแม่ทัพพม่ายกทัพจากเมืองไชยาเข้าบุกเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) สละเมืองหลบหนีเข้าป่าทัพพม่าเข้ายึดเมืองนครฯ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงยกทัพเรือเข้ายึดเมืองนครฯ คืนมาได้ พ.ศ. 2354 เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) ถวายบังคมลาออกจากราชการ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงทรงแต่งตั้งให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) เป็นเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์) และทรงแต่งให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ซึ่งเป็นพระโอรสในพระเจ้ากรุงธนบุรีฯ ขึ้นเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชต่อมา เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์) ถึงแก่อสัญกรรมในพ.ศ. 2357 กรมหมื่นศักดิพลเสพผู้ทรงเป็นหลานของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์) เสด็จมายังนครศรีธรรมราชเพื่อปลงศพเจ้าคุณตาและจัดระเบียบการปกครองเมืองนครศรีธรรมราชใหม่โดยอ้างอิงจากพระอัยการตำแหน่งกรมการเมืองนครฯจากสมัยอยุธยา
ในพ.ศ. 2363 ตวนกูปะแงหรัน สุลต่านแห่งไทรบุรี แข็งเมืองเป็นอิสระจากกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระราชโองการให้เจ้าพระยานครฯ (น้อย) ยกทัพไปยึดเมืองไทรบุรี เจ้าพระยานครฯ (น้อย) สามารถยึดเมืองไทรบุรีได้และเมืองนครศรีธรรมราชปกครองไทรบุรีโดยตรงเป็นเวลาสิบเจ็ดปีจนกระทั่งกบฏหวันหมาดหลีในสมัยของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) เมืองนครศรีธรรมราชมีอำนาจมากในหัวเมืองปักษ์ใต้ เมื่อเจ้าพระยานครฯ (น้อย) ถึงแก่อสัญกรรมในพ.ศ. 2382 บุตรชายของเจ้าพระยานครฯ (น้อย) คือเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง ณ นคร) เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชคนต่อมา
ในพ.ศ. 2401 ตำแหน่งเจ้าเมืองสงขลาได้รับการเลื่อนขึ้นมาให้มีศักดินา 10,000 ไร่ ทัดเทียมกับเมืองนครศรีธรรมราช ทำให้นครศรีธรรมราชไม่ใช่หัวเมืองใหญ่แห่งปักษ์ใต้เมืองเดียวอีกต่อไป เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเมืองไทรบุรีซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าพระยานครฯ แต่เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนูพร้อม ณ นคร) ไม่ได้ตามลงไปรับเสด็จด้วย เป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเรียกตัวเจ้าพระยานครฯ (หนูพร้อม) ไปช่วยราชการที่กรุงเทพฯ นับจากนั้นมาส่วนกลางจึงเข้ามามีอำนาจปกครองนครศรีธรรมราชโดยตรง การจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราชในพ.ศ. 2439 ทำให้ตำแหน่งเจ้าพระยานครศรีธรรมราชสิ้นสุดลง พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) เป็นข้าหลวงมณฑลนครศรีธรรมราชคนแรก มณฑลนครศรีธรรมราชมีอาณาเขตประกอบด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา จากนั้นมีข้าหลวงดำรงตำแหน่งต่อมาได้แก่พระยาชลบุรานุรักษ์ (เจริญ จารุจินดา) พ.ศ. 2449-2452 และเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ พ.ศ. 2453 - 2468 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจัดตั้งมณฑลภาคในพ.ศ. 2458 นครศรีธรรมราชเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลภาคปักษ์ใต้ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อมีการตรา"พระราชบัญญัติการบริหารราชการส่วนภูมิภาค พุทธศักราช 2476" ขึ้น มณฑลเทศาภิบาลสิ้นสุดลงนำไปสู่การจัดตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด
- 16 พฤษภาคม 2440 ได้มีการรวมเกาะสมุย มณฑลนครศรีธรรมราช และเกาะพะงัน มณฑลชุมพร รวมขึ้นกับเมืองกาญจนดิษฐ์ มณฑลชุมพร (ปัจจุบัน คือ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอดอนสัก (เฉพาะตำบลดอนสัก (บางส่วน)) จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
- 29 กรกฎาคม 2449 ได้มีการโอนอำเภอลำพูน อำเภอพนม และอำเภอพะแสง จากเมืองนครศรีธรรมราช มณฑลนครศรีธรรมราช มาขึ้นกับเมืองไชยา มณฑลชุมพร (ปัจจุบัน คือ อำเภอเคียนซา, อำเภอชัยบุรี, อำเภอบ้านนาเดิม, อำเภอบ้านนาสาร, อำเภอพนม, อำเภอพระแสง, อำเภอเวียงสระ, อำเภอบ้านตาขุน (เฉพาะตำบลเขาวง) และอำเภอพุนพิน (เฉพาะตำบลกรูด และตำบลตะปาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอำเภอเขาพนม (เฉพาะตำบลเขาดิน, ตำบลพรุเตียว (บางส่วน) และตำบลหน้าเขา (บางส่วน)) และอำเภอปลายพระยา (เฉพาะตำบลปลายพระยา, ตำบลเขาเขน และตำบลคีรีวง) จังหวัดกระบี่)
- 17 สิงหาคม 2450 ได้มีการโอนตำบลทะเลน้อย ตำบลตะเครียะ ตำบลหัวป่า ตำบลบ้านพร้าว และตำบลสำโรง จากอำเภอพังไกร เมืองนครศรีธรรมราช มาขึ้นกับอำเภอทะเลน้อย เมืองพัทลุง (ปัจจุบัน คือ อำเภอควนขนุน (เฉพาะตำบลทะเลน้อย และตำบลพนางตุง (บางส่วน)) จังหวัดพัทลุง และอำเภอระโนด (เฉพาะตำบลตะเครียะ และตำบลบ้านขาว) จังหวัดสงขลา)
- 27 พฤศจิกายน 2464 ได้มีการโอนตำบลคลองแดน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับกิ่งอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา (ปัจจุบัน คือ อำเภอระโนด (เฉพาะตำบลคลองแดน และตำบลแดนสงวน) จังหวัดสงขลา)
- 14 เมษายน 2472 ได้มีการโอนตำบลไชยคราม และตำบลดอนสัก อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ปัจจุบัน คือ อำเภอดอนสัก (เฉพาะตำบลไชยคราม ตำบลปากแพรก และตำบลดอนสัก) จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
- 1 เมษายน 2480 ได้มีการโอนตำบลลำทับ กิ่งอำเภอท่ายาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ (ปัจจุบัน คือ อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่)
- 20 พฤศจิกายน 2515 ได้มีการโอนหมู่ที่ 7 (บ้านนางกำ) ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ปัจจุบัน คือ อำเภอดอนสัก (เฉพาะตำบลดอนสัก (บางส่วน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้งและอาณาเขต
จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ โดยมีจังหวัดที่มีอาณาเขตติดกัน ดังนี้
- ด้านเหนือ ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และอ่าวไทย
- ด้านใต้ ติดกับจังหวัดตรัง จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา
- ด้านตะวันออก ติดกับอ่าวไทย
- ด้านตะวันตก ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่
พื้นที่ที่ติดกับทะเลฝั่งอ่าวไทยของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นมีชายฝั่งยาวประมาณ 225 กิโลเมตร และจังหวัดนครศรีธรรมราชมีเขาสูงที่สุดในภาคใต้ คือ เขาหลวง มีความสูงประมาณ 1,835 เมตร
หน่วยการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค

การปกครองแบ่งออกเป็น 23 อำเภอ 170 ตำบล 1,428 หมู่บ้าน
|
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 42 คน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเกิดขึ้นจากการจัดตั้ง "สภาจังหวัดนครศรีธรรมราช" เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. 2476 โดยมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสภาจังหวัด พ.ศ. 2481 ต่อมาได้รับการจัดตั้งเป็น "องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช" เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. 2498 โดยมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540
ภายในพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งออกเป็นเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับล่างหรือระดับพื้นฐานจำนวนทั้งหมด 127 แห่ง ได้แก่ เทศบาลนคร 1 แห่ง คือ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช, เทศบาลเมือง 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองชะมาย เทศบาลเมืองปากพูน เทศบาลเมืองทุ่งสง และเทศบาลเมืองปากพนัง, เทศบาลตำบล 49 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 130 แห่ง
เจ้าเมืองนครและผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช
ลำดับ | รายนาม | เริ่มต้น | สิ้นสุด |
---|---|---|---|
1 | เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนู) | 2319 | 2325 |
2 | เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์ ณ นคร) | 2325 | 2357 |
3 | เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย ณ นคร) | 2357 | 2381 |
4 | เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง ณ นคร) | 2384 | 2410 |
5 | เจ้าพระยาสุธรรมมนตรีศรีธรรมราช (หนูพร้อม ณ นคร) | 2410 | 2440 |
สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช
ลำดับ | รายนาม | เริ่มต้น | สิ้นสุด |
---|---|---|---|
1 | เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) | 2439 | 2449 |
2 | พระยาศรีธรรมราช (เจริญ จารุจินดา) | 2449 | 2453 |
3 | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ | 2453 | 2468 |
4 | พระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) | 2468 | 2469 |
5 | พระยาศรีธรรมราช (ทองคำ กาญจนโชติ) | 2469 | 2476 |
รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ลำดับ | รายนาม | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง | ลำดับ | รายนาม | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|---|---|---|
1 | เจ้าพระยาสุธรรมมนตรีศรีธรรมราช (หนูพร้อม ณ นคร) | พ.ศ. 2440 – พ.ศ. 2447 | 2 | พระยาสุนทราทรธุรกิจปรีชา (หมี ณ ถลาง) | พ.ศ. 2447 – พ.ศ. 2449 |
3 | พระยาตรังภูษาภิบาล (ถนอม บุณยเกตุ) | พ.ศ. 2449 – พ.ศ. 2452 | 4 | พระยาศิริธรรมบริรักษ์ (เย็น สุวรรณปัทมะ) | พ.ศ. 2452 – พ.ศ. 2455 |
5 | พระยาประชากิจกรจักร์ (ฟัด มหาเปารยะ) | พ.ศ. 2455 – พ.ศ. 2462 | 6 | พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (สินธุ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) | พ.ศ. 2462 – พ.ศ. 2474 |
7 | พระยาสุรพลนิพิธ (เป้า สุมนดิษฐ์) | พ.ศ. 2474 – พ.ศ. 2475 | 8 | พระยาบุรีสราธิการ (โจ้ กนิษฐารัตน์) | พ.ศ. 2475 – พ.ศ. 2476 |
9 | พระอรรถนิพนธ์ปรีชา (ประเสริฐ อรรถนิพนธ์ปรีชา) | พ.ศ. 2476 – พ.ศ. 2477 | 10 | พระยาสุราษฎร์ธานีศรีเกษตรนิคม (เต่า ศตะกูรมะ) | พ.ศ. 2477 – พ.ศ. 2481 |
11 | เรือเอก พระสาครบุรานุรักษ์ (ปริก สุวรรณนนท์) | พ.ศ. 2481 – พ.ศ. 2484 | 12 | เรืออากาศเอก หลวงวุฒิราษฎร์รักษา (วุฒิ ศรสงคราม วุฒิราษฎร์รักษา) | พ.ศ. 2484 – พ.ศ. 2486 |
13 | ขุนภักดีดำรงฤทธิ์ (ภักดี ดำรงฤทธิ์) | พ.ศ. 2486 – พ.ศ. 2489 | 14 | ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ (สุวงศ์ วัฏฏะสิงห์) | พ.ศ. 2489 – พ.ศ. 2489 |
15 | นายแม้น ออนจันทร์ | พ.ศ. 2489 – พ.ศ. 2493 | 16 | ขุนอารีราชการัณย์ (ชิต สุมนดิษฐ์) | พ.ศ. 2493 – พ.ศ. 2494 |
17 | ขุนไมตรีประชารักษ์ (ไมตรี พิจิตรนรการ) | พ.ศ. 2494 – พ.ศ. 2495 | 18 | ขุนพิเศษนครกิจ (ชุบ กลิ่นสุคนธ์) | พ.ศ. 2495 – พ.ศ. 2497 |
19 | ขุนจรรยาวิเศษ (เที่ยง บุญยนิตย์) | พ.ศ. 2497 – พ.ศ. 2500 | 20 | นายมงคล สุภาพงษ์ | พ.ศ. 2500 – พ.ศ. 2501 |
21 | นายจันทร์ สมบูรณ์กุล | พ.ศ. 2501 – พ.ศ. 2503 | 22 | นายสันต์ เอกมหาชัย | พ.ศ. 2503 – พ.ศ. 2512 |
23 | นายพันธ์ ลายตระกูล | พ.ศ. 2512 – พ.ศ. 2514 | 24 | นายคล้าย จิตพิทักษ์ | พ.ศ. 2515 – พ.ศ. 2518 |
25 | นายเวียง สาครสินธุ์ | พ.ศ. 2518 – พ.ศ. 2518 | 26 | นายศุภโยค พานิชวิทย์ | พ.ศ. 2518 – พ.ศ. 2519 |
27 | นายเสน่ห์ วัฑฒนาธร | พ.ศ. 2519 – พ.ศ. 2521 | 28 | นายธานี โรจรนาลักษณ์ | พ.ศ. 2521 – พ.ศ. 2525 |
29 | นายเอนก สิทธิประศาสน์ | พ.ศ. 2525 – พ.ศ. 2529 | 30 | เรือตรีสุกรี รักษ์ศรีทอง | พ.ศ. 2529 – พ.ศ. 2530 |
31 | นายนิพนธ์ บุญญภัทโร | พ.ศ. 2530 – พ.ศ. 2532 | 32 | พันโทกมล ประจวบเหมาะ | พ.ศ. 2532 – พ.ศ. 2533 |
33 | ร้อยตรีณรงค์ แสงสุริยงค์ | พ.ศ. 2533 – พ.ศ. 2534 | 34 | ร้อยตรีกิตติ ประทุมแก้ว | พ.ศ. 2534 – พ.ศ. 2535 |
35 | นายวิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล | พ.ศ. 2535 – พ.ศ. 2536 | 36 | นายสุชาญ พงษ์เหนือ | พ.ศ. 2536 – พ.ศ. 2537 |
37 | นายบัญญัติ จันทน์เสนะ | พ.ศ. 2537 – พ.ศ. 2538 | 38 | นายประกิต เทพชนะ | พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2540 |
39 | นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ | พ.ศ. 2540 – พ.ศ. 2541 | 40 | นายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ | พ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2544 |
41 | นายสวัสดิ์ แกล้วทนงค์ | พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2547 | 42 | นายวิชม ทองสงค์ | พ.ศ. 2547 – พ.ศ. 2551 |
43 | นายภาณุ อุทัยรัตน์ | พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2552 | 44 | นายธีระ มินทราศักดิ์ | พ.ศ. 2552 – พ.ศ. 2554 |
45 | นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ | พ.ศ. 2554 – พ.ศ. 2556 | 46 | นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ | พ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2557 |
47 | นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า | พ.ศ. 2557 – พ.ศ. 2559 | 48 | นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา | พ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2562 |
49 | นายศิริพัฒ พัฒกุล | พ.ศ. 2562 – พ.ศ. 2563 | 50 | นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ | พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2565 |
51 | นายอภินันท์ เผือกผ่อง | พ.ศ. 2565 – พ.ศ. 2566 | 52 | นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี | พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2567 |
53 | นายสมชาย ลีหล้าน้อย | พ.ศ. 2567 – ปัจจุบัน |
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจโดยทั่วไปของจังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นอยู่กับภาคเกษตร อาชีพหลัก คือ ทำสวนยางพารา ทำสวนปาล์มน้ำมัน ทำนา ทำไร่ การปลูกผลไม้(สวนสมรม) ทำสวนมะพร้าว การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง และการเลี้ยงสัตว์
ศาสนา
ชาวนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ ประมาณ 92.08% รองลงมา คือ ศาสนาอิสลาม ประมาณ 7.03% ศาสนาคริสต์ ประมาณ 0.89% นอกจากนั้นเป็นศาสนาอื่น ๆ (ข้อมูลประชากร 1,516,499 คน ปี พ.ศ. 2552)
การคมนาคม


ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีรถสองแถว วิ่งบริการรอบเมือง และจากนครศรีธรรมราชไปสู่อำเภอใกล้เคียง หรือจังหวัดข้างเคียง สามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งมีรถตู้ รถเมล์ รถโดยสาร และรถไฟ
ทางรถไฟ
- รถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพ มีขบวนรถเร็วขบวนที่ 173/174 รถด่วนขบวนที่ 85/86 ไปนครศรีธรรมราช รวมระยะทาง 832 กิโลเมตร
และ ยังมีขบวนรถท้องถิ่นที่ 451/452 นครศรีธรรมราช-สุไหงโกลก-นครศรีธรรมราช และ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455/456 นครศรีธรรมราช-ยะลา-นครศรีธรรมราช
ทางรถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารทั้งแบบธรรมดา และปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี), อำเภอขนอม มีรถ วีไอพี ปรับอากาศ ชั้น 1 ขนอม-กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ-ขนอม
ทางรถยนต์ส่วนบุคคล
การเดินทางจากกรุงเทพมายังนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แล้วใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ผ่านสุราษฎร์ธานี-ทุ่งสง จนถึงนครศรีธรรมราช หรือ ถึงอำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี แล้วใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 เลียบชายฝั่งทะเล ไปจนถึงนครศรีธรรมราช รวมระยะทาง 780 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางยังอำเภออื่น ๆ หรือจังหวัดใกล้เคียงได้อีกด้วย
ทางอากาศยาน
ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช มีเที่ยวบินให้บริการ 23 เที่ยวบินต่อวัน โดยมี 5 สายการบินคือ การบินไทยสมายล์ นกแอร์ ไทยเวียดเจ็ทแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และไทยไลอ้อนแอร์ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช
ระยะทางจากตัวจังหวัดไปอำเภอต่าง ๆ
- อำเภอพระพรหม 19 กิโลเมตร
- อำเภอพรหมคีรี 21 กิโลเมตร
- อำเภอท่าศาลา 25 กิโลเมตร
- อำเภอลานสกา 27 กิโลเมตร
- อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 30 กิโลเมตร
- อำเภอร่อนพิบูลย์ 35 กิโลเมตร
- อำเภอปากพนัง 39 กิโลเมตร
- อำเภอเชียรใหญ่ 48 กิโลเมตร
- อำเภอนบพิตำ 52 กิโลเมตร
- อำเภอช้างกลาง 58 กิโลเมตร
- อำเภอทุ่งสง 58 กิโลเมตร
- อำเภอจุฬาภรณ์ 58 กิโลเมตร
- อำเภอนาบอน 58 กิโลเมตร
- อำเภอสิชล 59 กิโลเมตร
- อำเภอฉวาง 63 กิโลเมตร
- อำเภอหัวไทร 65 กิโลเมตร
- อำเภอชะอวด 66 กิโลเมตร
- อำเภอพิปูน 77 กิโลเมตร
- อำเภอถ้ำพรรณรา 78 กิโลเมตร
- อำเภอทุ่งใหญ่ 81 กิโลเมตร
- อำเภอบางขัน 90 กิโลเมตร
- อำเภอขนอม 96 กิโลเมตร
กีฬา
สโมสรฟุตบอลนครศรีฯ ยูไนเต็ด
บุคคลที่มีชื่อเสียง
- นักการเมือง
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 26
- พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นักการเมือง
- แทนคุณ จิตต์อิสระ นักการเมือง
- ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นักการเมือง
- ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ นักการเมือง
- วงการบันเทิง
- กันติชา ชุมมะ นักแสดงและนางแบบ
- จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ นักแสดง
- เชิด ทรงศรี ผู้กำกับภาพยนตร์
- โชเล่ย์ ดอกกระโดน นักแสดงตลก
- ฐกฤต ตวันพงค์ นักแสดง
- ณรรลฌา ดอกกะฐิน นักร้อง
- ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกร
- ธัญสินี พรมสุทธิ์ นักแสดง
- นนธวรรณทัศ บรามาซ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014
- นัท มีเรีย นักร้องและนักแสดง
- นาธาน โอร์มาน นักร้องและนักแสดง
- ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ นักแสดง
- พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ นักแสดงและนางแบบ
- พิชญา เชาวลิต นักแสดง
- มัณฑนา หิมะทองคำ นักแสดง
- เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ นักร้องและนักแสดง
- วิฑูรย์ กรุณา นักแสดง
- เวอาห์ แสงเงิน นักแสดง
- ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดละคร
- สุรัสวดี เชื้อชาติ นักร้อง ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา
- อรัญญา พงศ์ภัณฑารักษ์ นักแสดง
- อัจฉรา ทองเทพ นักแสดง
- เอกชัย ศรีวิชัย นักร้อง นักแสดง
- กิตติคุณ เชียรสงค์ นักร้อง
- อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์ นักแสดง
- เขมสรณ์ หนูขาว ผู้ประกาศข่าว พิธีกร
- รัชนก สุวรรณเกตุ นักร้อง
- ณฉัตร จันทพันธ์ นักแสดง
- รัชนก ศรีโลพันธุ์ นักร้อง
- อื่นๆ
- สุกรี เจริญสุข อดีตคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรสนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 31
เมืองพี่เมืองน้อง
เมือง | วันลงนาม | หมายเหตุ |
---|---|---|
![]() | 17 มีนาคม 2560 | บันทึกความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดนครศรีธรรมราช |
![]() | 16 มิถุนายน 2560 | บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดนครพนม |
อ้างอิง
- ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_64.pdf 2564. สืบค้น 12 มีนาคม 2565.
- สารนครศรีธรรมราช : นามของนครศรีธรรมราชในประวัติศาสตร์
- https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/323
- https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/507
- https://www.nakhononline.com/1812/
- http://www.tungsong.com/NakhonSri/tamnan_nakhon/5.pdf
- "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-04. สืบค้นเมื่อ 2019-11-04.
- https://www.gotoknow.org/posts/463016
- http://oknation.nationtv.tv/blog/localbetong/2010/09/28/entry-3
- "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-21. สืบค้นเมื่อ 2019-11-08.
- https://www.ayutthaya-history.com/Settlements_Dutch.html
- ประภัสสร์ ชูวิเชียร, ดร. พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช มหาสถูปแห่งคาบสมุทรภาคใต้. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์เมืองโบราณ, ตุลาคม ๒๕๕๓.
- เรื่องตั้งเจ้าพระยานครศรีธรรมราชครั้งกรุงเก่า. ประชุมพงศาวดาร.
- เจ้าพระยาทิพากรณ์วงศ์ (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑.
- สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒.
- https://www.thaipost.net/main/detail/1100
- "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-13. สืบค้นเมื่อ 2020-04-04.
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง รวมเกาะสมุยและเกาะพงัน ทั้ง 2 เกาะ ขึ้นต่อเมืองกาญจนดิฐ, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 14 ตอนที่ 7 หน้า 83. https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1019100.pdf
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนท้องที่อำเภอลำพูน อำเภอพนม อำเภอพะแสง จากเมืองนครศรีธรรมราช มณฑลนครศรีธรรมราช มาขึ้นเมืองไชยา มณฑลชุมพร, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 23 ตอนที่ 18 หน้า 408. https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1030554.pdf
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนตำบลต่าง ๆ รวม 5 ตำบล จากอำเภอพังไกร เมืองนครศรีธรรมราช มาขึ้นอำเภอทะเลน้อย เมืองพัทลุง, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 24 ตอนที่ 20 หน้า 521. https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1032262.pdf
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนตำบล, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 46 ง หน้า 149. https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1084474.pdf
- พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พ.ศ. 2479, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 54 หน้า 42. https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2480/A/40.PDF
- ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 249 เรื่อง กำหนดให้เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยโอนหมู่บ้านหมู่ที่ 7 (บ้านนางกำ) ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 89 ตอนที่ 174 ก หน้า 1. https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1289675.pdf
- "การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. สืบค้นเมื่อ 16 สิงหาคม 2025.
- "พระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. ๒๔๗๖" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2020-12-11.
- พระราชบัญญัติสภาจังหวัด พ.ศ. ๒๔๘๑
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๔๙๘
- พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐
- "ข้อมูลจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแยกรายจังหวัด". กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. สืบค้นเมื่อ 1 เมษายน 2024.
- http://www.xn--42c3as5b.com/16392809/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B9%91-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9[ลิงก์เสีย]
- "ทำเนียบผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จากเว็บไซต์จังหวัดนครศรีธรรมราช". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-11. สืบค้นเมื่อ 2009-02-19.
ดูเพิ่ม
- รายชื่อวัดในจังหวัดนครศรีธรรมราช
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช
- รายชื่อโรงพยาบาลในจังหวัดนครศรีธรรมราช
- รายชื่อเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช
แหล่งข้อมูลอื่น

- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2006-12-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แผนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
- หน้าเพจ facebook จังหวัดนครศรีธรรมราช
8°24′N 99°58′E / 8.4°N 99.97°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดนครศรีธรรมราช
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ นครศรีธรรมราช, นครศรีธรรมราช คืออะไร? นครศรีธรรมราช หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!