จ๊กก๊ก
ฮั่น (漢; ค.ศ. 221–263) รู้จักกันในประวัติศาสตร์นิพนธ์ว่า จ๊กก๊ก หรือ ฉู่ฮั่น (蜀漢 [ʂù xân] ; มักเขียนสั้น ๆ ว่า ฉู่ 蜀; พินอิน: shŭ < จีนสมัยกลาง: *źjowk < จีนฮั่นตะวันออก: *dźok;) หรือ จี้ฮั่น (季漢 "ฮั่นน้อย") เพื่อแก้ความกำกวมจากราชวงศ์ฮั่นก่อนหน้า เป็นหนึ่งในสามรัฐหลักที่ต่อสู้รบแย่งชิงกันเพื่อครองอำนาจสูงสุดเหนือแผ่นดินจีนในยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220 - ค.ศ. 280) รัฐแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ของนครฮั่นจง มณฑลเสฉวน นครฉงชิ่ง มณฑลยูนนาน มณฑลกุ้ยโจว และทางตอนเหนือของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่เรียกกันว่า "ฉู่" ตามชื่อของรัฐฉู่ซึ่งเป็นรัฐอันเก่าแก่ในครั้งอดีตกาล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์โดยประมาณนี้ด้วย อาณาเขตหลักยังใกล้เคียงกับอาณาจักรฮั่นของเล่าปัง (หลิว ปัง) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ฮั่น
จ๊กก๊ก (สู่ฮั่น) 蜀漢 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 221–263 | |||||||||
![]() จีนในปี ค.ศ. 162 อาณาเขตของจ๊กก๊กคือสีชมพู | |||||||||
เมืองหลวง | เซงโต๋ (เฉิงตู) | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาจีนปา-ฉู่ ภาษาจีนฮั่นตะวันออก | ||||||||
ศาสนา | ลัทธิเต๋า, ลัทธิขงจื๊อ, ศาสนาชาวบ้านจีน | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
จักรพรรดิ | |||||||||
• ค.ศ. 221–223 | เล่าปี่ | ||||||||
• ค.ศ. 223–263 | เล่าเสี้ยน | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคสามก๊ก | ||||||||
• ก่อตั้ง | พฤษภาคม ค.ศ. 221 | ||||||||
• การพิชิตจ๊กก๊กโดยวุยก๊ก | ป. ธันวาคม ค.ศ. 263 | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• ค.ศ. 221 | 900,000 | ||||||||
• ค.ศ. 263 | 1,082,000 | ||||||||
สกุลเงิน | เหรียญเงินจีน | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ประเทศจีน ประเทศพม่า |
จ๊กก๊ก | |||||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 蜀漢 | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 蜀汉 | ||||||||||||||||||||||||
ฮั่นยฺหวี่พินอิน | Shǔ Hàn | ||||||||||||||||||||||||
|
จ๊กก๊กถูกก่อตั้งขึ้นโดยเล่าปี่ จึงได้ตั้งชื่อรัฐมาจากเขาว่า "ฮั่น" ในขณะที่เขาได้ถือว่าตนเป็นผู้สืบทอดที่มีความชอบธรรมของราชวงศ์ฮั่น ในขณะที่คำนำหน้าว่า "ฉู่" ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดยวุยก๊กที่เป็นรัฐอริเพื่อทำลายความชอบธรรมในอำนาจอธิปไตยขอจ๊กก๊ก ต่อมาเมื่อถูกเขียนไว้ในสามก๊กจี่ นักประวัติศาสตร์ตันซิ่วยังใช้คำนำหน้าว่า "ฉู่" เพื่ออธิบายถึงรัฐฮั่นของเล่าปี่ เป็นคำนำหน้าทางภูมิศาสตร์เพื่อแบ่งแยกความแตกต่างจากรัฐอืน ๆ ที่มีชื่อ "ฮั่น" ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของจีน
ประวัติ
จุดเริ่มต้นและสถาปนา
ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เล่าปี่ขุนศึกและเป็นเชื้อพระวงศ์ที่เป็นพระญาติห่าง ๆ ของราชวงศ์ฮั่น ได้รวบรวมการสนับสนุนจากผู้ติดตามที่มีความสามารถจำนวนมากมาย หลังจากเล่าเปียวเสียชีวิต ตามคำแนะนำของที่ปรึกษาของเขาอย่างจูกัดเหลียง และแผนหลงจงของจูเก่อ เล่าปี่ได้พิชิตบางส่วนของเกงจิ๋ว (ครอบคลุมมณฑลหูเป่ย์และหูหนานในยุคปัจจุบัน) ใน ค.ศ. 208 และ 209 ได้เข้ายึดครองเอ๊กจิ๋ว (ครอบคลุมมณฑลเสฉวนและฉงชิ่งในยุคปัจจุบัน) จากขุนศึกนามว่า เล่าเจี้ยง ระหว่างปี ค.ศ. 212 และ ค.ศ. 214 และแย่งชิงการควบคุมพื้นที่ฮันต๋ง จากโจโฉที่เป็นข้าศึก ใน ค.ศ. 219 ภายหลังจากนั้น เล่าปี่ได้สถาปนาตนเองเป็นอ๋องแห่งฮันต๋ง
จากดินแดนที่เขาได้รับมา เล่าปี่ได้สร้างฐานะให้กับตัวเองในจีนในช่วงปีสุดท้ายของราชวงศ์ฮั่น อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 219 การเป็นพันธมิตรกันระหว่างเล่าปี่และซุนกวนได้พังทลายลง เมื่อซุนกวนได้ส่งแม่ทัพของเขานามว่าลิบองเพื่อบุกครองเกงจิ๋ว เล่าปี่ได้สูญเสียดินแดนของเขาในเกงจิ๋วให้กับซุนกวน กวนอูผู้คอยดูแลรักษาทรัพย์สินของเล่าปี่ในเกงจิ๋ว ถูกจับกุมและประหารชีวิตโดยกองทัพซุนกวนในเวลาต่อมา
โจโฉได้ถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 220 และถูกสืบทอดโดยโจผีบุตรชายคนโตของเขา ซึ่งได้บีบบังคีบให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮั่น สละราชบัลลังก์ตามความพอใจของเขา โจผีสถาปนารัฐวุยก๊ก และประกาศแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ เล่าปี่โต้แย้งการอ้างสิทธิ์ราชบัลลังก์ของโจผีและประกาศสถาปนาตนเองเป็น "จักรพรรดิแห่งฮั่น"ใน ค.ศ. 221 แม้ว่าเล่าปี่จะถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ก่อตั้งรัฐจ๊กก๊ก แต่พระองค์ไม่ได้กล่าวอ้างว่าเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ มากกว่านั้น เขาได้มองว่าจ๊กก๊กเป็นความต่อเนื่องของราชวงศ์ฮั่น
เพื่อแบ่งแยกความแตกต่างจากรัฐออกจากรัฐอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเดียวกัน นักประวัติศาสตร์ๆได้เพิ่มตัวอักษรที่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อเดิมของรัฐ: รัฐที่เรียกตัวเองว่า ฮั่น (漢) ยังคงเป็นที่รู้จักกันคือ "ฉู่ฮั่น"(蜀漢) หรือเพียงแค่ "ฉู่"(蜀)
รัชสมัยของเล่าปี่
เล่าปี่ปกครองในฐานะจักรพรรดิเป็นเวลาน้อยกว่าสามปี ใน ค.ศ. 222 พระองค์ริเริ่มการทัพปะทะกับซุนกวนเพื่อยึดเกงจิ๋วกลับคืนและล้างแค้นให้กับกวนอู จนมาถึงจุดสุดยอดในยุทธการที่อิเหลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากดำเนินทางยุทธวิธีที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง เล่าปี่ต้องประสบความปราชัยอย่างย่อยยับด้วยน้ำมือของแม่ทัพของซุนกวนนามว่าลกซุน และสูญเสียกองทัพส่วนใหญ่ไป พระองค์ทรงรอดชีวิตจากการสู้รบและล่าถอยไปยังเป๊กเต้เสียที่ซึ่งพระองค์ทรงสวรรคตด้วยอาการประชวรในอีกหนึ่งปีต่อมา
รัชสมัยของเล่าเสี้ยน
ก่อนที่เล่าปี่จะทรงสวรรคต พระองค์ได้แต่งตั้งให้อัครมหาเสนาบดี จูกัดเหลียงและแม่ทัพทหารนามว่า ลิเงียมให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ให้กับจักรพรรดิเล่าเสี้ยนราชโอรสองค์โตของพระองค์ เล่าเสี้ยนซึ่งอยู่ในวัยพระเยาว์ด้วยพระชนมายุเพียง 16 พรรษา ทำให้พระองค์กลายเป็นผู้ปกครองที่มีอายุน้อยที่สุดในอาณาจักรสามก๊ก และเล่าปี่ทรงคาดหวังกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ทั้งสองคนคอยช่วยเหลือเล่าเสี้ยนในการบริหารดูแลกิจการของรัฐ จูกัดเหลียงเป็นหัวหน้าของรัฐบาลฉู่โดยพฤกตินัยในช่วงตลอดรัชสมัยของเล่าเสี้ยน และเป็นผู้รับผิดชอบในนโยบายส่วนใหญ่ของจ๊กก๊กในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง
เมื่อเล่าเสี้ยนได้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระบิดาของพระองค์ จ๊กก๊กเป็นรัฐที่อ่อนแอมากที่สุดในสามก๊ก ภายหลังจากพระบิดาได้พบความปราชัยใน ค.ศ. 221 ส่วนหนึ่งของเกงจิ๋วที่ฉู่ได้ครอบครองไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งได้อยู่ภายใต้การควบคุมของง่อก๊กอย่างมั่นคง ฉู่ได้รวบรวมเพียงแค่ดินแดนทางตะวันตกของเอ๊กจิ๋ว ในขณะที่วุยก๊กได้ครอบครองดินแดนทางเหนือไว้ทั้งหมด และง่อก๊กได้ควบคุมดินแดนทั้งหมดจากตะวันออกของเอ๊กจิ๋วไปจนถึงแนวชายฝั่งทางใต้และตะวันออก ในขณะเดียวกัน ประชากรของรัฐฉู่ก็มีไม่มากพอที่จะยืนหยัดต้านทานรัฐวุยก๊กที่เป็นศัตรู ด้วยการที่รัฐฉู่มีจำกัดในด้านทรัพยากรและกำลังคน แม้ว่ารัฐนั้นจะสามารถป้องกันตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ฉู่ก็ไม่สามารถเปิดฉากการทัพที่ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ จูกัดเหลียงได้ตกลงเจราจาเพื่อสันติภาพกับรัฐง่อก๊กแและรื้อฟื้นความเป็นพันธมิตรกันระหว่างซุนกวนและฉู่ โดยในอดีตยังได้รับรู้ถึงความชอบธรรมของซุนกวน เมื่อตอนหลังได้แตกหักกับวุยก๊ก และประกาศตั้งตนเป็น "จักรพรรดิแห่งง่อก๊ก" ใน ค.ศ. 229 เพื่อเสริมสร้างอำนาจของรัฐจ๊กก๊กในพื้นที่ทางใต้อันห่างไกลของลำเจี๋ยง จูกัดเหลียงยังได้เปิดฉากด้วยกองทัพรบนอกประเทศใน ค.ศ. 225 เพื่อปราบปรามการก่อกบฎในท้องถิ่นและอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของชนเผ่าลำมันในภูมิภาค
จูกัดเหลียงได้สนับสนุนนโยบายการต่างประเทศอย่างก้าวร้าวต่อรัฐวุยก๊ก เพราะเขามีความเชื่ออย่างยิ่งว่ามีความสำคัญต่อความอยู่รอดของรัฐฉู่และอำนาจอธิปไตย ระหว่างปี ค.ศ. 228 และ ค.ศ. 234 เขาได้เปิดฉากชุดของการทัพทางทหารห้าครั้งปะทะกับวุยก๊ก โดยมีเป้าหมายเพื่อพิชิตเตียงอั๋น เมืองทางยุทธศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสู่เมืองหลวงของวุยก๊กคือลกเอี๋ยง การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในมณฑลกานซู่และฉ่านซีในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ยังได้เกียงอุยมาเป็นขุนพลฝ่ายตนใน ค.ศ. 228 รัฐฉู่ได้ล้มเหลวในการได้รับชัยชนะที่สำคัญหรือผลประโยชน์ที่ยั่งยืนในการทัพห้าครั้ง ในช่วงการทัพครั้งสุดท้ายของเขาซึ่งได้ต่อสู้รบกับแม่ทัพฝ่ายวุยก๊กนามว่าสุมาอี้ซึ่งมีความเก่งกาจเทียบเท่าและเป็นคู่ปรับตัวฉกาจ และจูกัดเหลียงต้องเสียชีวิตลงจากการล้มป่วยซึ่งเกิดขึ้นมาจากความตึงเครียดด้วยหนทางตันที่ยาวนานกับกองทัพวุยก๊กในยุทธการที่ทุ่งราบอู่จั้ง
ภายหลังการเสียชีวิตของจูกัดเหลียง รัฐบาลฉู่ได้อยู่ภายใต้การนำโดยเจียวอ้วน บิฮุย และคนอื่น ๆ และรัฐฉู่ได้ยุติความก้าวร้าวต่อวุยก๊กเป็นการชั่วคราว ใน ค.ศ. 244 ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของวุยก๊กโจซองได้เปิดฉากการบุกครองฮั่นจง แม้ว่าจะมีจำนวนมากกว่า 2 ต่อ 1 แต่กองกำลังของฉู่สามารถเอาชนะผู้รุกรานในยุทธการที่ซิงชื่อ โดยกองทัพวุยก๊กต้องล่าถอยกลับไปอย่างอับอายขายหน้า ระหว่าง ค.ศ. 247 และ ค.ศ. 262 เกียงอุย ขุนพลฝ่ายฉู่ได้กลับมาสืบทอดมรดกตกทอดของจูกัดเหลียง โดยนำชุดของการทัพทางทหารปะทะกับวุยก๊ก แต่ก็ยังล้มเหลวในการได้รับอาณาเขตอย่างมีนัยสำคัญ
การล่มสลายของจ๊กก๊ก
ใน ค.ศ. 263 กองทัพที่นำโดยขุนพลฝ่ายวุยก๊กนามว่า เตงงายและจงโฮยได้เข้าโจมตีรัฐฉู่ และพิชิตเซงโต๋ที่เป็นเมืองหลวง โดยปราศจากขัดขืนต่อต้านที่มีไม่มากนัก - รัฐได้ประสบความอ่อนล้าในการทัพที่โชคร้ายของเกียงอุย ในปีเดียวกัน เล่าเสี้ยนก็ได้ยอมจำนนต่อเตงงายที่นอกเมืองเซงโต๋ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของรัฐฉู่ แต่เกียงอุยได้พยายามยุยงปลุกปั่นความขัดแย้งระหว่างเตงงายและจงโฮย โดยคาดหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อฟื้นฟูรัฐฉู่ขึ้นมาใหม่ จงโฮยได้จับกุมเตงงายและก่อกบฏต่อผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของวุยก๊กคือสุมาเจียวอย่างเปิดเผย แต่การก่อกบฏได้ถูกปราบปรามโดยกองกำลังทหารวุยก๊ก เกียงอุย จงโฮย และเตงงายได้ถูกสังหารในการสู้รบ
ส่วนเล่าเสี้ยนได้ถูกนำพาตัวไปยังลกเอี๋ยง ซึ่งที่นั่นได้พบกับสุมาเจียวและได้รับตำแหน่งเป็น "อันเล่อซือกง" พระองค์ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและสงบสุขในลกเอี๋ยงจวบจนถึงวาระสุดท้ายพระชนม์ชีพของพระองค์
เศรษฐกิจ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รายพระนามกษัตริย์
นามวัด | สมัญญานาม | ชื่อสกุล (ตัวหนา) และชื่อตัว | ครองราชย์ (ค.ศ.) | ชื่อรัชศกและช่วงเวลา (ค.ศ.) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
เลี่ยจู่ 烈祖 | เจ้าเลียดห้องเต้ (เจาเลี่ยหฺวางตี้) 昭烈皇帝 | เล่าปี่ (หลิว เป้ย์) 劉備 | ค.ศ. 221–223 |
| เล่าปี่ยังถูกเรียกในนาม "จักรพรรดิองค์ก่อน"(先帝 เซียนตี้)ในตำราประวัติศาสตร์บางเล่ม |
- | เซี่ยวหฺวายหฺวางตี้ 孝懷皇帝 | เล่าเสี้ยน (หลิว ช่าน) 劉禪 | ค.ศ. 223–263 |
| เล่าเสี้ยนได้รับสมัญญานามเป็น "อานเล่อซือกง" (安樂思公) โดยราชวงศ์จิ้น ภายหลังได้รับการสถาปนาย้อนหลังเป็น "จักรพรรดิเซี่ยวหฺวาย" (孝懷皇帝 เซี่ยวหฺวายหฺวางตี้) โดยหลิว เยฺวียน (劉淵) ผู้ก่อตั้งรัฐฮั่น-เจ้าในยุคสิบหกรัฐ เล่าเสี้ยนยังถูกเรียกในนามว่า "เจ้านายองค์หลัง" (後主 โฮ่วจู่) ในตำราประวัติศาสตร์บางเล่ม |
อ้างอิง
- Zou Jiwan (จีน: 鄒紀萬), Zhongguo Tongshi – Weijin Nanbeichao Shi 中國通史·魏晉南北朝史, (1992).
- Schuessler, Axel. (2009) Minimal Old Chinese and Later Han Chinese. Honolulu: University of Hawai'i. 157
- Chen Shou, Records of the Three Kingdoms, "Book of Shu: Accounts of Deng, Zhang, Zong, & Yang", section Yang Xi: quote: "戲以延熙四年著《季漢輔臣贊》"; translation: "[Yang] Xi, in the fourth year of Yanxi era [241 CE], composed 'Praises for the Supportive Ministers of Ji Han.'"
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ จ๊กก๊ก, จ๊กก๊ก คืออะไร? จ๊กก๊ก หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!