เซือง วัน มิญ
พลเอกพิเศษ เซือง วัน มิญ (เวียดนาม: Dương Văn Minh; 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1916 – 6 สิงหาคม ค.ศ. 2001) หรือที่ส่วนใหญ่รู้จักกันว่า บิ๊กมิญ (Big Minh) เป็นนายพลอาวุโสของกองทัพบกสาธารณรัฐเวียดนามและนักการเมืองในสมัยประธานาธิบดีโง ดิ่ญ เสี่ยม มิญกลายเป็นผู้นำคณะทหารในเหตุการณ์รัฐประหารรัฐบาลเสี่ยมเมื่อ ค.ศ. 1963 โดยเขาอยู่ในอำนาจเพียงสามเดือนก่อนที่จะถูกขับออกจากอำนาจหลังจากรัฐประหารที่นำโดยนายพลเหงียน คั้ญ อย่างไรก็ตาม มิญกลับสู่อำนาจอีกครั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามใต้คนที่สี่และคนสุดท้ายในเดือนเมษายน ค.ศ. 1975 ซี่งเป็นเวลาสองวันก่อนการยอมจำนนต่อกองทัพเวียดนามเหนือ เขาได้รับฉายาว่า "บิ๊กมิญ" เนื่องจากเขามีความสูงประมาณ 1.83 เมตร และมีน้ำหนัก 90 กิโลกรัม
พลเอกพิเศษ เซือง วัน มิญ | |
---|---|
![]() นายพลเซือง วัน มิญ เมื่อ ค.ศ. 1964 | |
ประธานาธิบดีเวียดนามใต้ คนที่ 4 | |
ดำรงตำแหน่ง 28 เมษายน – 30 เมษายน ค.ศ. 1975 | |
นายกรัฐมนตรี | หวู วัน เหมิว |
รองประธานาธิบดี | เหงียน วัน ฮเหวี่ยน |
ก่อนหน้า | เจิ่น วัน เฮือง |
ถัดไป | เหงียน หืว เถาะ (ในตำแหน่งประธานรัฐบาลปฏิวัติชั่วคราวสาธารณรัฐเวียดนามใต้) |
ประธานคณะทหารปฏิวัติ คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 29 สิงหาคม – 26 ตุลาคม ค.ศ. 1964 | |
นายกรัฐมนตรี | เหงียน คั้ญ |
ก่อนหน้า | เหงียน คั้ญ |
ถัดไป | ฟาน คัก สืว (ในตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ) |
ดำรงตำแหน่ง 8 กุมภาพันธ์ – 16 สิงหาคม ค.ศ. 1964 | |
นายกรัฐมนตรี | เหงียน คั้ญ |
ก่อนหน้า | เหงียน คั้ญ |
ถัดไป | เหงียน คั้ญ |
ดำรงตำแหน่ง 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 – 30 มกราคม ค.ศ. 1964 | |
นายกรัฐมนตรี | เหงียน หง็อก เทอ |
ก่อนหน้า | โง ดิ่ญ เสี่ยม (ในตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามใต้) |
ถัดไป | เหงียน คั้ญ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1916 จังหวัดหมีทอ โคชินไชนา |
เสียชีวิต | 6 สิงหาคม ค.ศ. 2001 แพซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา | (85 ปี)
ที่ไว้ศพ | สวนอนุสรณ์โรสฮิลส์ |
พรรคการเมือง | อิสระ |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | กองทัพ |
บุตร | 3 คน |
การศึกษา | Collège Chasseloup-Laubat |
ชื่อเล่น | บิ๊กมิญ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สาธารณรัฐเวียดนามใต้ |
สังกัด |
|
ประจำการ | ค.ศ. 1940–1964 |
ยศ | พลเอกพิเศษ (Đại Tướng) |
บังคับบัญชา | หัวหน้าคณะทหารปฏิวัติ (ค.ศ. 1963–1964) |
ผ่านศึก |
|
เขาเกิดที่จังหวัดเตี่ยนซางในภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของเวียดนาม มิญเข้าร่วมกองทัพฝรั่งเศสในช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกจับกุมและทรมานเมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นบุกครองและยึดครองอินโดจีนของฝรั่งเศส หลังจากได้รับการปล่อยตัว เขาเข้าร่วมกองทัพเวียดนามแห่งชาติที่มีฝรั่งเศสหนุนหลัง และถูกขบวนการคอมมิวนิสต์เหวียตมิญคุมขังแต่สามารถหลบหนีออกมาได้ ใน ค.ศ. 1955 หลังจากเวียดนามถูกแบ่งแยกและรัฐเวียดนามควบคุมดินแดนครึ่งใต้ภายใต้นายกรัฐมนตรีโง ดิ่ญ เสี่ยม มิญนำกองทัพแห่งชาติในการเอาชนะกลุ่มอาชญากรรมกึ่งทหารบิ่ญเซวียน อย่างเด็ดขาด และปราบปรามกองกำลังติดอาวุธของลัทธิฮหว่าหาว ซึ่งทำให้เขาได้รับความนิยมจากประชาชนรวมถึงเสี่ยม แต่ต่อมาเสี่ยมมองเขาเป็นภัยคุกคาม จึงมอบตําแหน่งที่ไร้อํานาจให้กับเขา
ใน ค.ศ. 1963 รัฐบาลเสี่ยมเริ่มเสื่อมความนิยมอย่างหนักหน่วง เนื่องจากวิกฤตการณ์ชาวพุทธและบรรดานายพลในกองทัพบกตัดสินใจก่อรัฐประหาร ซึ่งท้ายที่สุดมิญก็กลายเป็นผู้นำในการยึดอำนาจ เสี่ยมถูกปลดจากตำแหน่งและลอบสังหารเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 โดยมีการกล่าวหาว่ามิญเป็นผู้สั่งให้เหงียน วัน ญุง สังหารเสี่ยม จากนั้นมิญเป็นผู้นําคณะทหารเป็นเวลาสามเดือน แต่เขาเป็นผู้นำที่ล้มเหลวและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเฉื่อยชาและไม่สนใจสิ่งใดมากนัก ในช่วงสามเดือนของการปกครองของเขา ปัญหาพลเรือนจํานวนมากทวีความรุนแรงขึ้นและคอมมิวนิสต์เหวียตกงได้รับผลประโยชน์อย่างมาก ด้านนายพลเหงียน คั้ญ ซึ่งไม่พอใจเพราะไม่ได้รับตําแหน่งที่ต้องการ ได้นำกลุ่มนายทหารที่ไม่พอใจมิญเช่นเดียวกันก่อการยึดอำนาจในเดือนมกราคม ค.ศ. 1964 คั้ญอนุญาตให้มิญดํารงตําแหน่งประมุขแห่งรัฐเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานะทางสังคมของเขา แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือของคั้ญ และหลังจากการต่อสู้ทางอำนาจ คั้ญจึงเนรเทศมิญออกนอกประเทศ มิญใช้ชีวิตอยู่ห่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาแข่งขันกับนายพลเหงียน วัน เถี่ยว ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ค.ศ. 1971 แต่เมื่อเห็นได้ชัดว่าเถี่ยวจะทุจริตการเลือกตั้ง มิญจึงถอนตัวและกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบจนถึง ค.ศ. 1972
ต่อมามิญก็สนับสนุน "กองกําลังที่สาม" โดยยืนยันว่าเวียดนามสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้โดยไม่ต้องได้รับชัยชนะทางทหารต่อรัฐบาลคอมมิวนิสต์หรือต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ เถี่ยวเห็นด้วย ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1975 เนื่องจากเวียดนามใต้ใกล้จะถูกรุกราน เถี่ยวจึงลาออก และหนึ่งสัปดาห์ต่อมา มิญได้รับเลือกอย่างบังคับจากสภานิติบัญญัติให้เป็นประธานาธิบดีในวันที่ 28 เมษายน กรุงไซ่ง่อนล่มสลายในอีกสองวันต่อมาในวันที่ 30 เมษายน และมิญสั่งให้ยอมจํานนเพื่อป้องกันการนองเลือดบนท้องถนน มิญไม่ต้องจำคุกเป็นเวลานานเหมือนเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนของเวียดนามใต้คนอื่น ๆ และเขาใช้ชีวิตอย่างสงบจนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1983 ต่อมาเขาย้ายไปอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 2001
การเป็นประธานาธิบดีเวียดนามใต้
- ครั้งแรก 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ถึง 30 มกราคม ค.ศ. 1964 รวมระยะเวลา 3 เดือน โดยทำรัฐประหารโง ดิ่ญ เสี่ยม
- ครั้งที่สอง 8 กุมภาพันธ์ 1964 ถึง 16 สิงหาคม 1964 รวมระยะเวลา 7 เดือน
- ครั้งที่สาม 8 กันยายน ค.ศ. 1964 ถึง 26 ตุลาคม ค.ศ. 1964 รวมระยะเวลา 1 เดือน
- ครั้งที่สี่ครั้งสุดท้าย 28 เมษายน ค.ศ. 1975 ถึง 30 เมษายน ค.ศ. 1975 รวมระยะเวลา 3 วัน หลังจากนั้นกองทัพเวียดนามเหนือและเวียดกงก็เข้ายึดไซ่ง่อนเมืองหลวงของเวียดนามใต้ เซือง วัน มิญ จึงต้องประกาศยอมจำนน
อ้างอิง
- Dương Văn Minh profile
- Robert Trando Letters of a Vietnamese Émigré − 2010, p. 87 "We learned soon that President Diệm and his brother Nhu had been savagely butchered on the floor of the M-113 by Major Nhung, the aide of General Dương-Văn Minh. This man had the reputation of being a bloodthirsty monster, that every ..."
- Phan Rang Chronicles: A British Surgeon in Vietnam Henry Hamilton – 2007, p. 38 "General Dương Văn Minh, who had assumed power, had the major shot."
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ เซือง วัน มิญ, เซือง วัน มิญ คืออะไร? เซือง วัน มิญ หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!