ราชบัณฑิตยสภา
ราชบัณฑิตยสภา เป็นองค์การในรัฐบาลไทย สำหรับค้นคว้าและวิจัยเพื่อเผยแพร่ ส่งเสริม แลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนา อนุรักษ์ และให้บริการทางวิชาการให้เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศและประชาชน มีหน่วยธุรการชื่อว่า สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ซึ่งเป็นส่วนราชการอิสระในฝ่ายบริหารของรัฐบาล มีฐานะเป็นกรม
Royal Society of Thailand | |
![]() เครื่องหมายราชการของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 19 เมษายน พ.ศ. 2469 |
หน่วยงานก่อนหน้า |
|
ประเภท | ส่วนราชการ |
สำนักงานใหญ่ | 120 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารซี ชั้น 2-4 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร |
บุคลากร | 92 คน (พ.ศ. 2566) |
งบประมาณต่อปี | 97,687,400 บาท (พ.ศ. 2568) |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
เอกสารหลัก |
|
เว็บไซต์ | ราชบัณฑิตยสภา และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา |
ในทางประวัติศาสตร์นั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงก่อตั้งราชบัณฑิตยสภาขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2469 เพื่อเป็นสมาคมปราชญ์ประจำประเทศสยามเฉกเช่นเดียวกับในต่างประเทศ ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างราชบัณฑิตยสภาในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 โดยแยกออกเป็นราชบัณฑิตยสถานกับกรมศิลปากรเพื่อให้ทำงานวิชาการได้อย่างเต็มที่ ราชบัณฑิตยสถานมีการทำงาน 2 ส่วน คือสภาราชบัณฑิตทำหน้าที่ด้านวิชาการ และข้าราชการประจำทำหน้าที่ธุรการสนับสนุนงานของสภาราชบัณฑิต ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอีกครั้งโดยเปลี่ยนชื่อราชบัณฑิตยสถานเป็นสำนักงานราชบัณฑิตยสภา และเปลี่ยนชื่อสภาราชบัณฑิตเป็นราชบัณฑิตยสภาตามชื่อดั้งเดิมสมัยรัชกาลที่ 7
ตามโครงสร้างปัจจุบัน ราชบัณฑิตยสภามีสมาชิก 3 ประเภท คือภาคีสมาชิก ราชบัณฑิต และราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ภาคีสมาชิกเป็นบุคคลที่ราชบัณฑิตยสภาคัดเลือกและแต่งตั้งขึ้นจากผู้มีสัญชาติไทยและมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ราชบัณฑิตเป็นบุคคลที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากบรรดาภาคีสมาชิกเมื่อมีคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรีตามคำแนะนำของราชบัณฑิตยสภา และราชบัณฑิตกิติมศักดิ์เป็นบุคคลที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิเมื่อมีคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรีตามคำแนะนำของราชบัณฑิตยสภา
ราชบัณฑิตยสภาจัดแบ่งงานวิชาการของตนออกเป็นสำนัก ได้แก่สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง สำนักวิทยาศาสตร์ และสำนักศิลปกรรม แต่งานวิชาการซึ่งเป็นที่รู้จักที่สุดของราชบัณฑิตยสภามักเป็นงานเนื่องในการวางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับภาษาไทย เช่น การจัดทำพจนานุกรม โดยเฉพาะ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน การจัดทำสารานุกรม อักขรานุกรม อนุกรมวิธาน และการบัญญัติศัพท์วิชาการ
ประวัติ
การก่อตั้งราชบัณฑิตยสภา
รัชกาลที่ 7 ทรงก่อตั้งราชบัณฑิตยสภาขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2469 โดยทรงรวมหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งรับผิดชอบหอสมุด พิพิธภัณฑสถาน งานวรรณกรรม งานวิศวกรรม และงานโบราณคดี เข้าด้วยกันเป็นหน่วยงานอันหนึ่งอันเดียว เพื่อให้ประเทศสยามได้มีสมาคมปราชญ์ประจำประเทศเฉกเช่นในต่างประเทศ ทรงตั้งชื่อหน่วยงานนี้ว่าราชบัณฑิตยสภา ตามชื่อกรมราชบัณฑิต ซึ่งเป็นหน่วยงานในกระทรวงธรรมการสมัยโบราณ
การปรับโครงสร้างเป็นราชบัณฑิตยสถาน
ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 คณะราษฎรผู้ก่อการปฏิวัติดังกล่าวได้ปรับโครงสร้างราชบัณฑิตยสภาเสียใหม่ตามการเสนอแนะของปรีดี พนมยงค์ หนึ่งในสมาชิกคณะ โดยมีประกาศในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 ให้ยุบราชบัณฑิตยสภาลงเพื่อแยกไปก่อตั้งเป็นหน่วยงานใหม่ 2 แห่ง คือราชบัณฑิตยสถาน (เมื่อก่อตั้งเขียนว่าราชบัณฑิตสถาน) และกรมศิลปากร
หลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ) เลขาธิการคนแรกของราชบัณฑิตยสถาน กล่าวถึงเหตุผลในการปรับโครงสร้างว่า "ราชบัณฑิตยสภาของเราได้ตั้งมาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2469 แต่ไม่ได้วางรูปโครงให้ตรงกับที่ควรวางไว้ คือแทนที่จะให้ราชบัณฑิตสภาเป็นที่ค้นคว้าวิชาการดังรูปร่างราชบัณฑิตสถานในเวลานี้ กลับเอางานธุรการไปบรรทุกเข้าไว้ให้กรรมการราชบัณฑิตสภาต้องเสียเวลาทำงานฝ่ายธุรการเป็นส่วนมาก เหลือเวลาที่จะค้นคว้าทางวิชาการแต่น้อย และก็ไม่มีกฏหมายหรือข้อบังคับอื่นใดที่บัญญัติให้กรรมการราชบัณฑิตสภาต้องทำการค้นทางวิชาการ…แต่ถ้าได้วางรูปการตราแบบราชบัณฑิตสถานที่แท้จริงแล้ว ผู้ที่ได้รับเลือกเข้าครองตำแหน่งในราชบัณฑิตสถานย่อมมีหน้าที่ที่ต้องทำการค้นคว้าในทางวิชา ความรู้ของเราจะงอกงามขึ้นโดยเร็ว…ต่อไปภายหน้าเราจะมีคนที่สามารถในเชิงสรรพวิชาพอที่จะทำการแลกเปลี่ยนความรู้กับราชบัณฑิตหรืออาคาเดมีเซียงของต่างประเทศ จะเป็นที่เชิดชูเกียรติของไทย จะให้ความสะดวกแก่การการค้นคว้าวิชาการ จะช่วยลดความจำเป็นในการจ้างชาวต่างประเทศ"
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ดำเนินตามโครงสร้างของสถาบันฝรั่งเศส (Institut de France) ซึ่งแบ่งกิจการออกเป็นสำนัก (académie) ต่าง ๆ มีปรีดี พนมยงค์ กับหม่อมเจ้าวรรณ ไวทยากร ร่างระเบียบการในการปรับโครงสร้าง ครั้นวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2477 จึงมีประกาศเรื่องโครงสร้างของราชบัณฑิตยสถาน โดยให้แบ่งกิจการออกเป็นสำนักต่าง ๆ 3 สำนัก คือสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง สำนักวิทยาศาสตร์ และสำนักศิลปกรรม พร้อมแต่งตั้งภาคีสมาชิกประจำสำนักแต่ละแห่ง
ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2477 มีการประชุมภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสถานเป็นครั้งแรก จัดที่ศาลาสหทัยสมาคม มีพระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พระยาพหลพลพยุหเสนากล่าวเปิดประชุมว่า "ทุกประเทศที่เจริญแล้วย่อมมีราชบัณฑิตสถาน ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นสมาชิกแห่งราชบัณฑิตสถานย่อมถือว่าได้รับความยกย่องอันสูงสุดที่จะพึงได้รับในเชิงวิชาการ...ราชบัณฑิตสถานของเราไม่ใช่เครื่องมือหรือเครื่องบำรุงความสูงศักดิ์ของบุคคลผู้หนึ่งผู้ใด แต่เป็นเครื่องเชิดชูเกียรติของชาติและระบอบรัฐธรรมนูญ ถ้าหากจะมีนามอันหนึ่งอยู่คู่ไปกับราชบัณฑิตสถาน นามอันนั้นจะไม่ใช่นามของบุคคล แต่เป็นนามของสภาผู้แทนราษฎร นามของรัฐธรรมนูญ ถ้าหากจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คนในชั้นหลังจะต้องระลึกคู่กันไปกับราชบัณฑิตสถาน สิ่งนั้นก็คือรัฐธรรมนูญ" ในการประชุมครั้งนี้ หม่อมเจ้าวรรณ ไวทยากร ทรงได้รับเลือกตั้งเป็นนายกคนแรกของราชบัณฑิตยสถาน พระเรี่ยมวิรัชชพากย์ (เรี่ยม ทรรทรานนท์) ได้รับเลือกตั้งเป็นอุปนายกคนแรกของราชบัณฑิตยสถาน และหลวงวิจิตรวาทการได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการคนแรกของราชบัณฑิตยสถาน
งานที่โดดเด่นของราชบัณฑิตยสถานในช่วงนี้ มีการปรับปรุงปทานุกรม (พจนานุกรม) ซึ่งเป็นงานที่รับโอนมาจากกระทรวงธรรมการ และงานจัดทำสารานุกรมและอักขรานุกรม งานบัญญัติศัพท์ทางวิชาการ และงานจัดวางระเบียบการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมัน
การปรับโครงสร้างเป็นราชบัณฑิตยสภา
ใน พ.ศ. 2556 สภาราชบัณฑิตเห็นว่า ในโอกาสครบรอบ 120 ปีพระประสูติกาลของรัชกาลที่ 7 ใน พ.ศ. 2558 นั้น สมควรเปลี่ยนชื่อหน่วยงานกลับเป็นราชบัณฑิตยสภาเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 จึงมีการเสนอกฎหมายไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งต่อมาได้รับการตราขึ้นเป็นพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2558 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 นอกจากการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวแล้ว พระราชบัญญัตินี้ยังให้ปรับเปลี่ยนราชบัณฑิตยสถานเป็นหน่วยธุรการของสภาราชบัณฑิต เรียกชื่อว่าสำนักงานราชบัณฑิตยสภา และเพิ่มอำนาจหน้าที่หลายประการให้แก่หน่วยงาน เป็นต้นว่าการมอบใบรับรองคุณวุฒิเช่นประกาศนียบัตร การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการสำหรับสมาชิกของหน่วยงาน และการอนุญาตให้หน่วยงานเก็บรักษารายได้ไว้เพื่อใช้ภายในโดยไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง
สมาชิกหลายคนของราชบัณฑิตยสถานคัดค้านการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากไม่มีการจัดทำประชาพิจารณ์
ที่ตั้ง
เดิมราชบัณฑิตยสภาตั้งอยู่ที่วังบางขุนพรหม ต่อมาย้ายไปยังหอสมุดวชิราวุธที่ถนนหน้าพระธาตุ กระทั่ง พ.ศ. 2531 จึงย้ายไปยังอาคารราชวัลลภในพระบรมมหาราชวัง ครั้น พ.ศ. 2549 ย้ายไปยังสนามเสือป่าใกล้ลานพระราชวังดุสิต และใน พ.ศ. 2567 ได้ย้ายไปยังที่ตั้งปัจจุบัน ณ อาคารซี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
- ที่ตั้งในพระบรมมหาราชวัง
- ที่ตั้ง ณ สนามเสือป่า
เครื่องหมาย
เครื่องหมายของราชบัณฑิตยสภาเป็นรูปพระขรรค์เปล่งรัศมีอยู่บนตำราที่เปิดอ้า มีคำในภาษาบาลีว่า "ปณฺฑิโต" และมีมงกุฏลอยอยู่เบื้องบนพระขรรค์ พร้อมแถบผ้าปรากฏนามหน่วยงานอยู่ภายใต้ตำรา
พระขรรค์และตำราดังกล่าวมีที่มาจากสุภาษิตว่า "ปัญญาประดุจดังอาวุธ" รัศมีของพระขรรค์สื่อถึงแสงแห่งปัญญา มงกุฏสื่อถึงพระมหากษัตริย์
การบริหาร
ราชบัณฑิตยสภามีการดำเนินงาน 2 ส่วน คืองานวิชาการและงานธุรการ
งานวิชาการ
งานวิชาการแบ่งออกเป็นสำนัก แต่ละสำนักมีหัวหน้าเรียกว่าประธานสำนัก และมีเลขานุการเรียกว่าเลขานุการสำนัก
สำนักแรกเริ่ม
สำนักแรกเริ่มใน พ.ศ. 2477 ประกอบด้วยสำนัก 3 สำนัก และสาขาวิชาย่อยต่าง ๆ ดังนี้
สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง
| สำนักวิทยาศาสตร์
| สำนักศิลปกรรม
|
สำนักในปัจจุบัน
สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง
| สำนักวิทยาศาสตร์
| สำนักศิลปกรรม
|
งานธุรการ
งานธุรการมีผู้รับผิดชอบคือสำนักงานราชบัณฑิตยสภา มีหัวหน้าสำนักงานเรียกว่าเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา และแบ่งการงานออกเป็นกอง 3 กอง คือกองธรรมศาสตร์และการเมือง กองวิทยาศาสตร์ และกองศิลปกรรม
สมาชิก
สมาชิกของราชบัณฑิตยสภา มี 3 ประเภทดังนี้
ราชบัณฑิต
ราชบัณฑิต ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง โดยราชบัณฑิตจากทุกสำนักจะเป็นผู้คัดเลือกจากภาคีสมาชิก แล้วนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง มีได้จำกัดจำนวน 118 ตำแหน่ง ปัจจุบันมีราชบัณฑิตจำนวน 110 คน
ภาคีสมาชิก
ภาคีสมาชิก ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่สมัครเข้าทำการร่วมกับราชบัณฑิตยสภา และราชบัณฑิตยสภาได้รับสมัครเป็นภาคีสมาชิกของสำนักใดสำนักหนึ่งแล้ว จำนวนภาคีสมาชิกมีจำกัดได้ไม่เกิน 84 คน แบ่งเป็น สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง 33 คน สำนักวิทยาศาสตร์ 55 คน สำนักศิลปกรรม 30 คน ปัจจุบันมีภาคีสมาชิก 74 คน
ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของราชบัณฑิตยสภา ได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง โดยไม่จำกัดจำนวน ปัจจุบันมีราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ จำนวน 8 คน เรียงตามลำดับการได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดังนี้
คำนำหน้าชื่อ | รายชื่อ | ปีที่ได้รับแต่งตั้ง | สาขาวิชา | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|
พลตรี | เภา เพียรเลิศ บริภัณฑ์ยุทธกิจ | 2486 | - | |
พลตรี | ประยูร ภมรมนตรี | 2486 | - | |
พลอากาศโท | มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษฏ์ | 2486 | - | |
พลตรี | วิจิตร วิจิตรวาทการ | 2486 | - | |
หม่อมหลวง | เดช สนิทวงศ์ | 2486 | - | |
ศาสตราจารย์ | เดือน บุนนาค | 2486 | - | |
พลโท | หลวงละออภูมิลักษณ์ (ลออ บุนนาค) | 2521 | - | |
พระอัพภันตราพาธพิศาล (กำจร พลางกูร) | 2524 | - | ||
หม่อมหลวง | ปิ่น มาลากุล | 2529 | วรรณศิลป์ | |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ | เฟื้อ หริพิทักษ์ | 2529 | วิจิตรศิลป์ | |
บุญมา วงศ์สวรรค์ | 2536 | เศรษฐศาสตร์ทั่วไป | ||
ศาสตราจารย์ | ประเวศ วะสี | 2548 | แพทยศาสตร์ | |
ศาสตราจารย์ | สิปปนนท์ เกตุทัต | 2548 | ฟิสิกส์ | |
ศาสตราจารย์พิเศษ | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) | 2550 | ศาสนศาสตร์ | |
มีชัย ฤชุพันธุ์ | 2550 | นิติศาสตร์ | ||
ศาสตราจารย์ คุณหญิง | กุหลาบ มัลลิกะมาส | 2550 | วรรณคดีเปรียบเทียบ | |
ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิง | พูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา | 2552 | ศึกษาศาสตร์ | |
ศาสตราจารย์ | ยงยุทธ ยุทธวงศ์ | 2552 | เคมี | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ | พูนพิศ อมาตยกุล | 2552 | ดุริยางคกรรม | |
ศาสตราจารย์ | พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) | 2552 | อัคฆวิทยา | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ | กุสุมา รักษมณี | 2562 | วรรณศิลป์ | |
ศาสตราจารย์ | ไพรัช ธัชยพงษ์ | 2563 | วิศวกรรมศาสตร์ |
ผู้ได้รับแต่งตั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
ดูเพิ่ม
- รายพระนามและชื่อนายกราชบัณฑิตยสถานและราชบัณฑิตยสภา
อ้างอิง
- "ติดต่อ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา". orst.go.th. n.d.
- "ราชบัณฑิตยสภา และ ธพส. ลงนามบันทึกความเข้าใจ การออกแบบตกแต่งสำนักงานแห่งใหม่ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี". bangkokbiznews. 2020-04-23. สืบค้นเมื่อ 2025-02-21.
- "พระราชบัญญัติงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 141 (59 ก): 83. 2024-09-30.
- "พระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2558". ราชบัณฑิตยสภา. 132 (10 ก): 1–11. 2015-02-13.
- "กำเนิดราชบัณฑิตยสภา". สถาบันพระปกเกล้า. 2016.[ลิงก์เสีย]
- ""ราชบัณฑิตยสถาน" มรดกคณะราษฎร ก่อตั้งหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475". Arts and Culture Magazine. 2024-06-24.
- "ประวัติความเป็นมา". orst.go.th. 2020.
- บุศรา เข็มทอง (2015). "ราชบัณฑิตยสภา". parliament.go.th.
- "แผนผังการบริหารราชบัณฑิตยสภาและสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ตามพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๕๕๘". royalsociety.go.th. n.d.
- "ราชบัณฑิตยสภา". thairath.co.th. 2015-02-27.
- "ยื่น สนช. ค้านเปลี่ยนชื่อ "ราชบัณฑิตยสถาน"". Post Today. 2014-10-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ 2015-04-16.
- "ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C ใช้อาคารได้ปี 67". thansettakij.com. 2023-01-04.
- ราชบัณฑิตยสถาน (2007). "เครื่องหมายราชการของราชบัณฑิตยสถาน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-16. สืบค้นเมื่อ 2015-02-16.
- "แผนภูมิการแบ่งส่วนราชการ พุทธศักราช 2564". orst.go.th. n.d.
- "แบ่งส่วนราชการสำนักงานราชบัณฑิตยสภา". orst.go.th. n.d.
- รายชื่อราชบัณฑิตและภาคีสมาชิกปัจจุบัน
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
- "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-02-25. สืบค้นเมื่อ 2018-01-18.
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นายเฟื้อ หริพิทักษ์)
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นายบุญมา วงศ์สวรรค์)
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ศาสตราจารย์ประเวศ วะสี, ศาสตราจารย์สิปปนนท์ เกตุทัต)
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พระพรหมคุณาภรณ์ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ศาสตราจารย์ คุณหญิงกุหลาบ มัลลิกะมาส)
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ศาสตราจารย์พูนพิศ อมาตยกุล)
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์, เล่ม 126, ตอนพิเศษ 62 ง, 23 เมษายน 2552, หน้า 31
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์, เล่ม 136, ตอนพิเศษ 115 ง, 10 พฤษภาคม 2562, หน้า 11
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์, เล่ม 137, ตอนพิเศษ 222 ง, 23 กันยายน 2563, หน้า 2
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของราชบัณฑิตยสภา
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
- ราชบัณฑิตยสภา ที่เฟซบุ๊ก
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ ราชบัณฑิตยสภา, ราชบัณฑิตยสภา คืออะไร? ราชบัณฑิตยสภา หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!