ปรัชญาธรรมชาติ
ปรัชญาธรรมชาติ (อังกฤษ: Natural philosophy หรือ philosophy of nature; ละติน: philosophia naturalis) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับปรัชญาของฟิสิกส์ ซึ่งก็คือธรรมชาติและจักรวาลทางกายภาพ ปรัชญาธรรมชาติเคยเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอดีต ก่อนที่ถูกแทนที่ด้วยสาขาวิชาที่ทันสมัยกว่าอย่างวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ในโลกยุคโบราณ (อย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยของอาริสโตเติล) จนถึงศตวรรษที่ 19 ปรัชญาธรรมชาติ เป็นคำศัพท์ทั่วไปที่หมายถึงการศึกษาธรรมชาติแบบกว้าง ๆ ในที่นี้รวมถึงสาขาวิชาแขนงต่าง ๆ อย่าง พฤกษศาสตร์ สัตววิทยา มานุษยวิทยา เคมี และ ฟิสิกส์ จนกระทั่งราวคริสตศตวรรษที่ 19 แนวคิดเรื่องวิทยาศาสตร์ก็ได้รับการปรับปรุงรูปแบบการศึกษาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดเป็นสาขาวิชาแขนงต่าง ๆ ได้แก่ ดาราศาสตร์ ชีววิทยา และ ฟิสิกส์ สถาบันวิจัยหลายแห่งได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อทำการศึกษาหรือวิจัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ คำว่า ปรัชญาธรรมชาติ ที่ปรากฎอยู่ใน หลักคณิตศาสตร์ของปรัชญาธรรมชาติ (Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica) ของ ไอแซก นิวตัน เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ายังมีการใช้คำนี้อยู่จนถึงคริสตศตวรรษที่ 17 แม้แต่ผลงานหลาย ๆ ชิ้นที่ช่วยขยายขอบเขตการศึกษาฟิสิกส์สมัยใหม่ในคริสตศตวรรษที่ 19 ก็ยังมีชื่อเรียกว่า ความเรียงว่าด้วยปรัชญาธรรมชาติ (Treatise on Natural Philosophy)
ปรัชญาว่าด้วยธรรมชาติ (Naturphilosophie) เป็นหนึ่งในสาขาวิชาของปรัชญาเยอรมันในคริสตศตวรรษที่ 18 และ 19 มีความพยายามที่จะปฏิรูปขอบเขตการศึกษา แทนที่หลักอภิปรัชญาของอริสโตเติลด้วยระเบียบวิธีแบบวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความเป็นมาตรฐานให้กับหลักการทดลองของธรรมชาติและจิตวิญญาณ ประกอบกับสนับสนุนแนวคิดเหตุผลนิยมแบบคานต์ นักปรัชญาชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงอยู่ในขบวนการนี้ ได้แก่ เกอเทอ เฮเกิล และ เช็ลลิง แนวคิดแบบ Naturphilosophie มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อศิลปะจินตนิยม ซึ่งมีมุมมองต่อกลไกทางธรรมชาติของโลกว่าเปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ตรงข้ามกับแนวทางเชิงปรัชญาของ จอห์น ล็อก และนักคิดคนอื่น ๆ ที่ยึดถือในหลักปรัชญาเครื่องกล ซึ่งมีมุมมองว่าโลกเปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่เครื่องหนึ่ง
ที่มาและพัฒนาการของคำนี้

คำว่า ปรัชญาธรรมชาติ เป็นคำที่เกิดขึ้นมาก่อนคำว่า วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (หรือที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์) ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งที่พัฒนามาจากปรัชญา หรือเช่นนั้นก็ถูกจัดให้เป็นการศึกษาทางเลือกของปรัชญาธรรมชาติ ปรัชญาธรรมชาติในอดีตมีความหมายที่แตกต่างไปจากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่หรือประวัติศาสตร์ธรรมชาติอย่างชัดเจน โดยที่ "ปรัชญาธรรมชาติ" เป็นการศึกษาโดยใช้ตรรกะเพื่ออธิบายเกี่ยวกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ (รวมถึงการวิจัยเชิงปริมาณในสมัยหลังจากกาลิเลโอ) ขณะที่ "ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ" เป็นการศึกษาที่มีพื้นฐานมาจากคุณสมบัติเชิงคุณภาพและเชิงพรรณา
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 ปรัชญาธรรมชาติถือว่าเป็นสาขาหนึ่งของวิชาปรัชญา แต่ก็มิได้เป็นสาขาที่โดดเด่นมากนัก บุคลากรท่านแรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาปรัชญาธรรมชาติคือ ยาโกโป ซาบาแรลลา แห่งมหาวิทยาลัยปาโดวา เมื่อ ค.ศ. 1577
คำว่า science และ scientists ตามนิยามความหมายแบบสมัยใหม่ พึ่งได้รับการบัญญัติขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยที่ความหมายดั้งเดิมของคำว่า science หมายถึง ความรู้ หรือ การศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับรากศัพท์ในภาษาละติน จนกระทั่งความหมายของคำ ๆ นี้ได้รับการบัญญัติขึ้นใหม่ เมื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์และระเบียบวิธีแบบวิทยาศาสตร์กลายเป็นสาขาวิชาที่สามารถแตกแขนงออกจากปรัชญาธรรมชาติได้อย่างชัดเจน โดยมีนักปรัชญาธรรมชาตินามว่า วิลเลียม ฮิวเวล จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้เสนอคำว่า "scientist" ไว้ในปี ค.ศ. 1834 เพื่อแทนคำว่า "cultivators of science" และ "natural philosopher" ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้
สาขาวิชา
สาขาวิชาปรัชญาธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ดาราศาสตร์ และ จักรวาลวิทยา การศึกษาธรรมชาติในวงกว้าง สาเหตุ การศึกษาสาเหตุ (ทั้งภายในและภายนอกในบางกรณี) การศึกษาเหตุภาพ ความน่าจะเป็น และ ความเป็นสุ่ม การศึกษาองค์ประกอบของธาตุ ความเป็นอนันต์และความไม่จำกัด (ทั้งเสมือนหรือจริง) การศึกษาสสาร กลศาสตร์ การเคลื่อนที่และการเปลี่ยนแปลง การศึกษาธรรมชาติหรือแหล่งการกระทำต่าง ๆ การศึกษาคุณสมบัติทางธรรมชาติ ปริมาณทางกายภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างกายภาพ และ ปรัชญาของอวกาศและเวลา
ดูเพิ่ม
- ปรัชญาสิ่งแวดล้อม
- ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
- สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
อ้างอิง
- Cahan, David, บ.ก. (2003). From Natural Philosophy to the Sciences: Writing the History of Nineteenth-Century Science. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 0226089282.
- The naturalist-theologian William Whewell coined the word "scientist"; his earliest written use identified by the Oxford English Dictionary was in 1834.
- Ross, Sydney (1962-06-01). "Scientist: The story of a word". Annals of Science (ภาษาอังกฤษ). 18 (2): 65–85. doi:10.1080/00033796200202722. ISSN 0003-3790.
อ่านเพิ่ม
- Adler, Mortimer J. (1993). The Four Dimensions of Philosophy: Metaphysical, Moral, Objective, Categorical. Macmillan. ISBN 0-02-500574-X.
- E.A. Burtt, Metaphysical Foundations of Modern Science (Garden City, NY: Doubleday and Company, 1954).
- Philip Kitcher, Science, Truth, and Democracy. Oxford Studies in Philosophy of Science. Oxford; New York: Oxford University Press, 2001. LCCN:2001036144 ISBN 0-19-514583-6
- Bertrand Russell, A History of Western Philosophy and Its Connection with Political and Social Circumstances from the Earliest Times to the Present Day (1945) Simon & Schuster, 1972.
- Santayana, George (1923). Scepticism and Animal Faith. Dover Publications. pp. 27–41. ISBN 0-486-20236-4.
- David Snoke, Natural Philosophy: A Survey of Physics and Western Thought. Access Research Network, 2003. ISBN 1-931796-25-4.Natural Philosophy: A Survey of Physics and Western Thought Welcome to The Old Schoolhouse® Magazine
- Nancy R. Pearcey and Charles B. Thaxton, The Soul of Science: Christian Faith and Natural Philosophy (Crossway Books, 1994, ISBN 0891077669).
- Alfred N. Whitehead, Process and Reality, The Macmillan Company, 1929.
- René Thom, Modèles mathématiques de la morphogenèse, Christian Bourgois, 1980.
- Claude Paul Bruter, Topologie et perception, Maloine, 3 vols. 1974/1976/1986.
- Jean Largeault, Principes classiques d'interprétation de la nature, Vrin, 1988.
- Moritz Schlick, Philosophy of Nature, Philosophical Library, New York, 1949.
- Andrew G. Van Melsen, The Philosophy of Nature, Duquesne University, Pittsburgh 1954.
- Miguel Espinoza, A Theory of Intelligibility. A Contribution to the Revival of the Philosophy of Nature, Thombooks Press, Toronto, ON, 2020.
- Miguel Espinoza, La matière éternelle et ses harmonies éphémères, L'Harmattan, Paris, 2017.
- Thagard, Paul (2019). Natural Philosophy: From Social Brains to Knowledge, Reality, Morality, and Beauty. New York: Oxford University Press. ISBN 9780190686444.
แหล่งข้อมูลอื่น


- "Aristotle's Natural Philosophy", Stanford Encyclopedia of Philosophy
- Institute for the Study of Nature
- "A Bigger Physics," a talk at MIT by Michael Augros
- Other articles
แม่แบบ:ยุคเรืองปัญญา แม่แบบ:หัวข้อปรัชญา แม่แบบ:มนุษยศาสตร์สิ่งแวดล้อม
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ ปรัชญาธรรมชาติ, ปรัชญาธรรมชาติ คืออะไร? ปรัชญาธรรมชาติ หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!