ไมแอมี

ไมแอมี
เมือง
ธง ตรา
สมญา:  Magic City, The Gateway to the Americas, Capital of Latin America[1] และ Vice City
ไมแอมี ตำแหน่งในรัฐฟลอริดา แสดงแผนที่รัฐฟลอริดา ไมแอมี ตำแหน่งในสหรัฐ แสดงแผนที่สหรัฐ ไมแอมี ตำแหน่งในทวีปอเมริกาเหนือ แสดงแผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ
พิกัด: 25°46′31″N 80°12′31″W / 25.775163°N 80.208615°W / 25.775163; -80.208615[2]
ประเทศ	สหรัฐ
รัฐ	รัฐฟลอริดา
ก่อตั้ง	ค.ศ. 1825
เข้าร่วม	28 กรกฎาคม ค.ศ. 1896
ผู้ก่อตั้ง	Julia Tuttle
การปกครอง
• นายกเทศมนตรี	Francis X. Suarez (R)
พื้นที่[3][4]
• ทั้งหมด	56.073 ตร.ไมล์ (145.23 ตร.กม.)
• พื้นดิน	35.996 ตร.ไมล์ (93.23 ตร.กม.)
• พื้นน้ำ	20.077 ตร.ไมล์ (52.00 ตร.กม.)
• รวมปริมณฑล	6,137 ตร.ไมล์ (15,890 ตร.กม.)
ความสูง	6 ฟุต (1.8 เมตร)
ความสูงจุดสูงสุด	42 ฟุต (12.8 เมตร)
ประชากร  (ค.ศ. 2010)[5]
• ทั้งหมด	399,457 คน
• ประมาณ  (ค.ศ. 2019)[6]	467,963 คน
• อันดับ	42
• ความหนาแน่น	11,135.9 คน/ตร.ไมล์ (4,299.6 คน/ตร.กม.)
• เขตเมือง	5,502,379 (อันดับ 4) คน
เดมะนิม	Miamian
เขตเวลา	UTC−05:00 (EST)
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)	UTC−04:00 (EDT)
รหัส ZIP	33010–33299
รหัสพื้นที่	305 และ 786
สนามบินหลัก	ท่าอากาศยานนานาชาติไมแอมี
รถไฟชานเมือง	Tri-Rail, Brightline
ระบบขนส่งมวลชนเร็ว
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ	$151 พันล้าน[7] (อันดับ 14)
เว็บไซต์	miamigov.com

ไมแอมี (อังกฤษ: Miami) เป็นมหานครชายฝั่ง^[8] ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดาในสหรัฐ โดยเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 3 บนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ^[9][10] เมืองนี้ยังมีตึกระฟ้ามากเป็นอันดับ 3 ในสหรัฐ โดยมีมากกว่า 300 ตึก^[11] ซึ่งในจำนวนนี้ 55 ตึกมีความสูงมากกว่า 491 ฟุต (150 ม.)^[12]

ไมแอมีเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านการเงิน การพาณิชย์ วัฒนธรรม ศิลปะ และการค้าระหว่างประเทศ^[13][14] และยังมีชื่อเล่นว่า "เมืองหลวงแห่งลาตินอเมริกา" เนื่องจากเป็นหนึ่งในเมืองของชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ โดยประชากรกว่า 72.7% มีเชื้อสายฮิสแปนิกและลาติน^[15]

นอกจากนี้ยังมีท่าเรือสำราญที่พลุกพล่านที่สุดในโลกทั้งในด้านผู้โดยสารและสายการเดินเรือ โดยมีการเรียกตัวเองว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งเรือสำราญของโลก"^[16] รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 2 ของประเทศรองจากมหานครนิวยอร์ก^[17]