ประเทศปาเลา
ปาเลา (อังกฤษ: Palau; ปาเลา: Belau, ออกเสียง: [ˈbɛlaw]) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐปาเลา (Republic of Palau หรือ ROP; Beluu er a Belau) เป็นประเทศหมู่เกาะในอนุภูมิภาคไมโครนีเชียของโอเชียเนีย ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วยเกาะประมาณ 340 เกาะ และตั้งอยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะแคโรไลน์ ส่วนฝั่งตะวันออกและตอนกลางเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไมโครนีเชีย
สาธารณรัฐปาเลา Republic of Palau (อังกฤษ) Beluu er a Belau (ปาเลา) | |
---|---|
ธงชาติ ตราแผ่นดิน | |
![]() ![]() | |
สถานะ | รัฐสมาชิกสหประชาชาติภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเสรีกับสหรัฐอเมริกา |
เมืองหลวง | เงรุลมุด 7°30′N 134°37′E / 7.500°N 134.617°E |
เมืองใหญ่สุด | คอรอร์ 7°20′N 134°29′E / 7.333°N 134.483°E |
ภาษาราชการ |
|
ภาษาพื้นเมือง |
|
กลุ่มชาติพันธุ์ (สำมะโน 2020) |
|
ศาสนา (2020) |
|
เดมะนิม | ชาวปาเลา |
การปกครอง | สหพันธ์ สาธารณรัฐระบบประธานาธิบดีภายใต้ประชาธิปไตยแบบไม่ระบุพรรค |
• ประธานาธิบดี | Surangel Whipps Jr. |
• รองประธานาธิบดี | Raynold Oilouch |
สภานิติบัญญัติ | สภาแห่งชาติ |
• สภาสูง | วุฒิสภา |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
เอกราช จากสหรัฐอเมริกาและประเทศไมโครนีเซีย | |
• ดินแดนในภาวะทรัสตีของหมู่เกาะแปซิฟิก | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 |
• รัฐธรรมนูญ | 2 เมษายน ค.ศ. 1979 |
• ก่อตั้งสาธารณรัฐปาเลา | 1 มกราคม ค.ศ. 1981 |
• ข้อตกลงความร่วมมือเสรี | 1 ตุลาคม ค.ศ. 1994 |
พื้นที่ | |
• รวม | 459 ตารางกิโลเมตร (177 ตารางไมล์) (ที่ 180) |
• แหล่งน้ำ (%) | ไม่ทราบ |
ประชากร | |
• ประมาณ | 21,503 (อันดับที่ 192) |
• สำมะโนประชากร 2021 | 16,766 |
• ความหนาแน่น | 38.375 ต่อตารางกิโลเมตร (99.4 ต่อตารางไมล์) |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2024 (ประมาณ) |
• รวม | |
• ต่อหัว | |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2024 (ประมาณ) |
• รวม | |
• ต่อหัว | |
เอชดีไอ (2022) | สูง · อันดับที่ 71 |
สกุลเงิน | ดอลลาร์สหรัฐ (USD) |
เขตเวลา | UTC+9 (PWT) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | ไม่มี |
รูปแบบวันที่ | ดด/วว/ปปปป |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +680 |
รหัส ISO 3166 | PW |
โดเมนบนสุด | .pw |
เว็บไซต์ PalauGov.pw | |
|
ด้วยขนาดพื้นที่ทั้งหมด 466 ตารางกิโลเมตร (180 ตารางไมล์) ทำให้เป็นประเทศที่เล็กอันดับ 16 ของโลก เกาะที่มีประชากรมากที่สุดคือคอรอร์ เมืองหลวงชื่อเงรุลมุด มีอาณาเขตทางทะเลติดต่อกับน่านน้ำสากลทางเหนือ ประเทศไมโครนีเชียทางตะวันออก ประเทศอินโดนีเซียทางใต้ และประเทศฟิลิปปินส์ทางตะวันตกเฉียงหนือ
ประเทศนี้มีผู้เข้าตั้งถิ่นฐานเดิมประมาณ 3,000 ปีก่อนโดยผู้อพยพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นสมุทร ปาเลาได้รับการวาดครั้งแรกบนแผนที่ยุโรปโดย เพาล์ ไคลน์ มิชชันนารีชาวโบฮีเมีย โดยอิงรายละเอียดที่ได้จากชาวปาเลาที่เรือล่มที่ชายฝั่งฟิลิปปินบนเกาะซามาร์ หมู่เกาะปาเลากลายเป็นส่วนหนึ่งของอีสต์อินดีส์ของสเปนใน ค.ศ. 1885 หลังสเปนแพ้ในสงครามสเปน–สหรัฐใน ค.ศ. 1898 หมู่เกาะนี้ถูกขายให้กับจักรวรรดิเยอรมันใน ค.ศ. 1899 ภายใต้เงื่อนไขสนธิสัญญาเยอรมัน–สเปน ซึ่งจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของนิวกินีของเยอรมนี
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทางสันนิบาตชาติให้หมู่เกาะนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแปซิฟิกใต้ในอาณัติที่ญี่ปุ่นปกครอง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง การต่อสู้กันประปรายรวมทั้งยุทธการที่เปเลลิวเกิดขึ้นระหว่างกองทหารอเมริกันและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทัพหมู่เกาะมาเรียนาและปาเลา ปาเลากับหมู่เกาะแปซิฟิกอื่น ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในภาวะทรัสตีของหมู่เกาะแปซิฟิกที่บริหารโดยสหรัฐใน ค.ศ. 1947 จากนั้นจึงโหวดคัดค้านการเข้าร่วมสหพันธรัฐไมโครนีเชียตามการลงประชามติใน ค.ศ. 1978 หมู่เกาะนี้ได้รับอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1994 ภายใต้ Compact of Free Association กับประเทศสหรัฐ
รากศัพท์
Belau ชื่อหมู่เกาะในภาษาปาเลา มาจากศัพท์ปาเลาว่า beluu แปลว่า "หมู่บ้าน" (ซึ่งมาจากภาษาออสโตรนีเซียนดั้งเดิม *banua) หรือจาก aibebelau ("การตอบกลับทางอ้อม") ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานการสร้างโลก ชื่อ "Palau" มีต้นกำเนิดจากภาษาสเปนว่า Los Palaos ซึ่งภายหลังเข้าสู่ภาษาอังกฤษผ่านภาษาเยอรมันว่า Palau ชื่อเก่าของหมู่เกาะในภาษาอังกฤษคือ "Pelew Islands" ชื่อประเทศ "Palau" มีแนวโน้มสูงว่าไม่ได้มาจากคำว่า Pulau ในภาษามลายู แม้จะมีความคล้ายคลึงกันในรูปคำก็ตาม ในภาษามลายู "ปูเลา" หมายถึง "เกาะ" ซึ่งเป็นลักษณะทางภูมิศาสตร์ของปาเลาในฐานะหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
ประวัติศาสตร์

ราชอาณาจักรสเปน (อีสต์อินดีส์ของสเปน) 1785–1808
สเปนสมัยนโปเลียน (อีสต์อินดีส์ของสเปน) 1808–1813
ราชอาณาจักรสเปน (อีสต์อินดีส์ของสเปน) 1813–1873
สาธารณรัฐสเปนที่หนึ่ง (อีสต์อินดีส์ของสเปน) 1873–1874
ราชอาณาจักรสเปน (อีสต์อินดีส์ของสเปน) 1873–1899
สาธารณรัฐฟิลิปปินที่หนึ่ง 23 มกราคม–12 กุมภาพันธ์ 1899
จักรวรรดิเยอรมัน (นิวกินีของเยอรมนี) 1899–1914
จักรวรรดิญี่ปุ่น (แปซิฟิกใต้ในอาณัติ) 1914–1944
ประเทศสหรัฐ 1944–1962
สหประชาชาติ (ดินแดนในภาวะทรัสตีของหมู่เกาะแปซิฟิก) 1947–1965
สหประชาชาติ (ดินแดนในภาวะทรัสตีของหมู่เกาะแปซิฟิก) 1965–1979
ประเทศไมโครนีเชีย 1979–1981

ช่วงต้น

ชาวออสโตรนีเซียนเข้าตั้งถิ่นฐานในปาเลาในช่วงสหัสวรรษที่ 3 ถึง 2 ก่อน ค.ศ. ส่วนใหญ่น่าจะมาจากฟิลิปปินส์หรืออินโดนีเซียในปัจจุบันสเปนเห็นเกาะโซนโซ-รลเร็วสุดใน ค.ศ. 1522 เมื่อคณะเผยแผ่สเปนบนเรือตรินิแดด เรือธงที่ใช้เดินทางรอบโลกของเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน สังเกตเห็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะรอบเส้นขนาน 5 องศาเหนือ แล้วตั้งชื่อเป็น "ซานฆวน" (San Juan)
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1696 กลุ่มลูกเรือจากหมู่เกาะแคโรไลน์ติดอยู่บนเกาะซามาร์ใกล้กีวัน โดยพวกเขาพบกับเพาล์ ไคลน์ มิชชันนารีชาวยุโรป ลูกเรือใช้ก้อนกรวดเพื่อพยายามแสดงตำแหน่งและขนาดของเกาะต่าง ๆ โดยประมาณให้ไคลน์ดู เขาใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้างแผนที่ยุโรปฉบับแรกที่แสดงพื้นที่ปาเลา ไคลน์ส่งแผนที่ให้กับท่านอธิการเยสุอิตพร้อมจดหมายที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อเกาะ วัฒนธรรมของผู้คน และประสบการณ์ของท่านที่มีต่อเกาะเหล่านั้น
สมัยสเปน
แผนที่และจดหมายของไคลน์ทำให้เกิดความสนใจในหมู่เกาะใหม่เหล่านี้อย่างมาก จดหมายอีกฉบับหนึ่งที่เขียนโดยบาทหลวงอังเดรส เซร์ราโน (Fr. Andrés Serrano) ถูกส่งไปยังยุโรปเมื่อ ค.ศ. 1705 โดยคัดลอกข้อมูลที่ไคลน์ให้ไว้ จดหมายเหล่านี้ส่งผลให้คณะเยสุอิตพยายามเดินทางไปยังปาเลาจาก[Captaincy General of the Philippines|ฟิลิปปินส์ของสเปน]]สามครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จใน ค.ศ. 1700, 1708 และ 1709 หมู่เกาะเหล่านี้ถูกคณะเยสุอิตนำโดยฟรานซิสโก ปาดียา (Francisco Padilla) ไปเยือนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1710 การเดินทางสิ้นสุดลงด้วยการที่นักบวชสองท่าน คือ Jacques Du Beron และ Joseph Cortyl เกยตื้นที่ชายฝั่งซอนโซ-รล เนื่องจากเรือแม่ซันติซิมาตรินิดัดถูกพายุพัดพาไปยังมินดาเนา เรืออีกลำหนึ่งถูกส่งมาจากกวมใน ค.ศ. 1711 เพื่อช่วยเหลือพวกเขา แต่กลับล่มลง ทำให้นักบวชเยสุอิตอีกสามท่านเสียชีวิต ความล้มเหลวของคณะเผยแผ่ศาสนาเหล่านี้ทำให้ปาเลาได้รับชื่อเดิมในภาษาสเปนว่า อิสลัสเอ็นกันตาดัส (Islas Encantadas; หมู่เกาะมนต์เสน่ห์)
สมัยเปลี่ยนผ่าน
พ่อค้าชาวอังกฤษเดินทางมาปาเลาเป็นประจำในคริสต์ศตวรรษที่ 18 (เรือแพ็คเก็ต Antelope ของบริษัทอินเดียตะวันออก อับปางนอกชายฝั่งเกาะอูลงใน ค.ศ. 1783 นำไปสู่การเยือนลอนดอนของเจ้าชายเล บู) ตามมาด้วยการขยายอิทธิพลของสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปาเลาภายใต้ชื่อ Palaos ถูกร่วมเข้าใน Malolos Congress ใน ค.ศ. 1898 ซึ่งเป็นสภาปฏิวัติแห่งแรกในฟิลิปปินส์mujต้องการเอกราชจากอาณานิคมอย่างสมบูรณ์ ปาเลาเป็นส่วนหนึ่งของอีสต์อินดีส์ของสเปน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ของสเปน ปาเลามีสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งในสภาหนึ่งคน ทำให้กลายเป็นกลุ่มเกาะเดียวในหมู่เกาะแคโรไลน์ทั้งหมดที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนในสภาฟิลิปปินส์ที่ไม่ได้เป็นอาณานิคม รัฐสภายังสนับสนุนสิทธิในการกำหนดอนาคตของตนเองของปาเลา หากต้องการดำเนินเส้นทางดังกล่าว
ภายหลังใน ค.ศ. 1899 จักรวรรดิสเปนขายปาเลาในฐานะส่วนหนึ่งของหมู่เกาะแคโรไลน์ให้กับจักรวรรดิเยอรมันเป็นส่วนหนึ่งของนิวกินีของเยอรมนีในสนธิสัญญาเยอรมนี–สเปน (ค.ศ. 1899) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จักรวรรดิญี่ปุ่นผนวกหมู่เกาะหลังยึดจากจักรวรรดิใน ค.ศ. 1914 หลังสงครามฯ สันนิบาตชาติได้วางหมู่เกาะนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งของแปซิฟิกใต้ในอาณัติภายใต้การบริหารของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นใช้ปาเลาเป็นฐานสนับสนุนในการรุกรานฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1941 ซึ่งสำเร็จใน ค.ศ. 1942 การรุกรานนี้โค่นรัฐบาลเครือจักรภพแห่งฟิลิปปินส์ที่สหรัฐแต่งตั้ง และแต่งตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินที่สองที่ญี่ปุ่นหนุนหลังใน ค.ศ. 1943
สมัยสหรัฐ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐเข้ายึดปาเลาจากญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1944 หลังยุทธการที่เปเลลิวที่เสียค่าใช้จ่ายมาก โดยมีทหารอเมริกันมากกว่า 2,000 นายและทหารญี่ปุ่น 10,000 นายเสียชีวิต และภายหลังในยุทธการที่อาเงาร์ ใน ค.ศ. 1945–1946 ประเทศสหรัฐได้สถาปนาเข้าควบคุมฟิลิปปินส์อีกครั้ง และบริหารจัดการปาเลาผ่านกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของ ค.ศ. 1946 ฟิลิปปินส์ได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ด้วยการก่อตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่สาม ย้ายเมืองหลวงแปซิฟิกตะวันตกไกลของสหรัฐไปที่กวม ปาเลาได้รับการส่งต่ออย่างเป็นทางการให้กับประเทศสหรัฐภายใต้การอุปถัมภ์ของสหประชาชาติใน ค.ศ. 1947 เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในภาวะทรัสตีของหมู่เกาะแปซิฟิกที่สถาปนาตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 21[ต้องการอ้างอิง]
เป็นเอกราช

เขตดินแดนทรัสต์สี่เขตได้รวมและก่อตั้งเป็นสหพันธรัฐไมโครนีเชียใน ค.ศ. 1979 แต่เขตปาเลาและหมู่เกาะมาร์แชลล์ลงมติคัดค้านรัฐธรรมนูญที่เสนอ ปาเลาซึ่งเป็นกลุ่มเกาะแคโรไลน์ที่อยู่ทางตะวันตกสุด ได้เลือกสถานะเอกราชใน ค.ศ. 1978 แทน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ต่อมาได้อนุมัติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นสาธารณรัฐปาเลาในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1981 ในปี 1980 ชาวปาเลาได้อนุมัติและให้สัตยาบันในรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐปาเลาในปี 1981 และได้ดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับสถานะความสัมพันธ์อิสระกับสหรัฐฯ ในปี 1982 สหพันธรัฐไมโครนีเซียได้แยกตัวออกจากการเจรจาเหล่านี้
การเมือง
ปาเลาเป็นสาธารณรัฐแบบประชาธิปไตย ประธานาธิบดีปาเลาเป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล รัฐใช้อำนาจบริหาร ในขณะที่อำนาจนิติบัญญัติอยู่ในมือรัฐบาลและรัฐสภาแห่งชาติปาเลา ฝ่ายตุลาการเป็นอิสระจากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ปาเลานำรัฐธรรมนูญมาใช้ใน ค.ศ. 1981
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ปาเลามีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นของตนเอง นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ปาเลาได้สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ไมโครนีเซียและฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านมติที่ 963 ที่แนะนำให้ปาเลาเข้าร่วมสหประชาชาติ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติอนุมัติให้ประเทศปาเลาเข้าเป็นสมาชิกตามมติ 49/63 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1994 นับแต่นั้นมา ปาเลาได้เข้าร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 ปาเลาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดพันธมิตรไต้หวัน-แปซิฟิก (Taiwan-Pacific Allies Summit) ครั้งแรก ประธานาธิบดีปาเลาได้เดินทางเยือนประเทศอื่น ๆ ในแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ รวมถึงญี่ปุ่นด้วย ไต้หวันให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ปาเลาเพื่อรักษาสถานะในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติและการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปาเลายังคงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับประเทศญี่ปุ่น ผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงสะพานคอรอร์-บาเบลดาโอบ ใน ค.ศ. 2015 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะเสด็จเยือนเมืองเปเลลิวเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปีสงครามโลกครั้งที่ 2
ปาเลาเป็นประเทศสมาชิกข้อตกลงนาอูรูเพื่อการจัดการประมง ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรเพื่อนบ้านของปาเลาทางตะวันตก ได้แสดงเจตนาที่จะสนับสนุนปาเลา หากต้องการเข้าร่วมอาเซียน
การแบ่งเขตการปกครอง

ปาเลาแบ่งเขตการปกครองเป็น 16 รัฐ (ก่อน ค.ศ. 1984 เรียกเป็นเทศบาล) รายการข้างล่างระบุพร้อมพื้นที่ (ตารางกิโลเมตร) และสำมะโนประชากร ค.ศ. 2015 และ 2020:
รัฐ | พื้นที่ (ตารางกิโลเมตร) | สำมะโนประชากร ค.ศ. 2015 | สำมะโนประชากร ค.ศ. 2020 | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
![]() | 1.7 | 54 | 41 | ประกอบด้วยหมู่เกาะกายาเงลอะทอลล์ |
![]() | 11.2 | 316 | 384 | ที่ปลายทางเหนือสุดของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 34 | 413 | 396 | ที่ปลายทางเหนือสุดของเกาะบาเบลดาโอบ ซึ่งอยู่ทางใต้ของรัฐงาร์เอลง |
![]() | 34 | 185 | 238 | ฝั่งตะวันตกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 68 | 350 | 349 | ฝั่งตะวันตกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 33 | 282 | 289 | ฝั่งตะวันตกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 17 | 282 | 312 | ฝั่งตะวันออกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 26 | 277 | 318 | ฝั่งตะวันออกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 43 | 291 | 319 | ฝั่งตะวันออกของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 44 | 334 | 363 | ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 59 | 2,455 | 2,529 | ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะบาเบลดาโอบ |
![]() | 60.52 | 11,444 | 11,199 | ประกอบด้วยคอรอร์, เงเรเกเบซัง และเกาะมาลากัล บวกหมู่เกาะร็อก (เอลบาเอบ; Chelbacheb) และ Eil Malk ทางตะวันตกเฉียงใต้ |
![]() | 22.3 | 484 | 470 | ประกอบด้วยเกาะเปเลลิวและเกาะเล็กทางเหนือ อันที่โดดเด่นคือเงร์เอว (Ngercheu) |
![]() | 8.06 | 119 | 114 | เกาะอาเงาร์ ตั้งอยู่ทางใต้ของเปเลลิว 12 กม. |
![]() | 3.1 | 40 | 53 | ประกอบด้วยเกาะซอนโซ-รล, ฟันนา, ปูโลอันนา และเมรีร์ |
![]() | 0.9 | 25 | 39 | ประกอบด้วยเกาะโตบีและเฮเลนรีฟ (ไม่มีคนอาศัยอยู่) |
ในอดีตหมู่เกาะร็อกของปาเลาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐคอรอร์
ภูมิศาสตร์

ดินแดนของปาเลาประกอบด้วยหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เกาะที่มีประชากรมากที่สุด ได้แก่ Angaur, Babeldaob, Koror และ Peleliu โดยสามเกาะหลังตั้งอยู่ภายในแนว ปะการังแนวปะการัง เดียวกัน ขณะที่ Angaur เป็นเกาะมหาสมุทรซึ่งอยู่ทางใต้ไปหลายกิโลเมตร ประมาณสองในสามของประชากรทั้งหมดอาศัยอยู่บนเกาะ Koror Kayangel ซึ่งเป็น อะทอลล์ ปะการัง ตั้งอยู่ทางเหนือของหมู่เกาะเหล่านี้ ส่วน Rock Islands ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ (ประมาณ 200 เกาะ) อยู่ทางตะวันตกของกลุ่มเกาะหลัก อีกทั้งยังมีกลุ่มเกาะห่างไกลจำนวนหกเกาะ เรียกว่า หมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะหลักราว ประกอบเป็นรัฐ Hatohobei และ Sonsorol
ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศของปาเลาเป็นแบบทางทะเล/เขตร้อน มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและรายวันเพียงเล็กน้อย อุณหภูมิเฉลี่ยประจำปีคือ 82 องศาฟาเรนไฮต์ (28 องศาเซลเซียส) มีความชื้นสูงและมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี เดือนธันวาคมถึงเมษายนเป็นช่วงที่อากาศเย็นที่สุด อุณหภูมิรายวันเปลี่ยนแปลงประมาณ 10 องศาฟาเรนไฮต์
เศรษฐกิจ
ปาเลาเป็นประเทศหมู่เกาะที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและมาตรฐานชีวิตที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามยังมีการกระจุกตัวของรายได้[ต้องการอ้างอิง] ทั้งนี้ รายได้หลักมาจากการ ท่องเที่ยว เกษตรกรรม การประมง โดยรัฐบาลเป็นผู้สร้างและจ้างงานหลัก ปาเลายังคงพึ่งพาเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาจากสหรัฐฯ และการประกอบธุรกิจจากนักลงทุนสหรัฐฯ ซึ่งทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัว อยู่ในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับสหพันธรัฐไมโครนีเซีย
ประชากร
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
1958 | 8,987 | — |
1970 | 11,210 | +24.7% |
1980 | 12,116 | +8.1% |
1990 | 15,122 | +24.8% |
1995 | 17,225 | +13.9% |
2000 | 19,129 | +11.1% |
2005 | 19,907 | +4.1% |
2015 | 17,661 | −11.3% |
2020 | 17,614 | −0.3% |
ที่มา:
|
ประชากรปาเลามีประมาณ 21,779 คน (2023) ในจำนวนนี้ร้อยละ 73 เป็นชาวปาเลาพื้นเมืองที่มีเชื้อสายเมลานีเชียและออสโตรนีเซียผสม และยังมีชุมชนเอเชียในปาเลาหลายแห่ง ชาวฟิลิปิโนเป็นกลุ่มเอเชียที่มีประชากรมากที่สุด และเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มากอันดับสองของประเทศ ซึ่งสืบที่มาถึงสมัยอาณานิคมสเปน นอกจากนี้ยังมีจำนวนชาวจีนและเกาหลีอย่างมีนัยยะสำคัญ และยังมีชาวปาเลาขนาดเล็กกว่าที่มีบรรพบุรุษญี่ปุ่นทั้งหมดหรือผสม ชาวปาเลาที่มีบรรพบุรุษจากเอเชียส่วนใหญ่เดินทางเข้ามาในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยชาวจีน บังกลาเทศ และเนปาลเดินทางมาปาเลาในฐานะคนงานที่ไม่มีทักษะและผู้เชี่ยวชาญ และยังมีชาวยุโรปและอเมริกันอีกจำนวนเล็กน้อย
ภาษา
ภาษาราชการของปาเลาคือภาษาปาเลาและอังกฤษ ยกเว้นสองรัฐ (รัฐซอนโซ-รลและรัฐฮาโตโฮเบย์) ที่มีภาษาพื้นเมือง (ซอนโซ-รลกับโตบี ตามลำดับ) เป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาปาเลา ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการในรัฐอาเงาร์ เนื่องจากระบบการศึกษาได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐขณะยังเป็นดินแดนภายใต้สภาวะทรัสต์ ภาษาอังกฤษจึงเป็นวิชาหลักในระบบการศึกษาปาเลา โดยประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
ศาสนา
ตามสำมะโน ค.ศ. 2020 ประชากรร้อยละ 46.9 นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก, ร้อยละ 25.9 เป็นโปรเตสแตนต์ (โดยหลักเป็นอีแวนเจอลีคัล), ร้อยละ 5 เป็นเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส, ร้อยละ 5.1 เป็น Modekngei, ร้อยละ 4.9 เป็นอิสลาม, ร้อยละ 0.9 เป็นมอรมอน และร้อยละ 11.4 นับถือศาสนาอื่น
การครอบครองปาเลาของเยอรมนีและญี่ปุ่นต่างก็ให้เงินอุดหนุนครูสอนศาสนาตามสเปน ชาวเยอรมันส่งชาวโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ญี่ปุ่นส่งชาวชินโตและพุทธ และชาวสเปนส่งมิชชันนารีโรมันคาทอลิกในขณะที่พวกเขาควบคุมปาเลา ประชากรสามในสี่นับถือศาสนาคริสต์ (ส่วนใหญ่เป็นโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์) ขณะที่ศาสนาโมเด็กเงอี (Modekngei; การผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์ ศาสนาปาเลาแบบดั้งเดิม และการทำนายดวงชะตา) และศาสนาปาเลาโบราณเป็นศาสนาที่นับถือกันโดยทั่วไป การปกครองของญี่ปุ่นได้นำศาสนาพุทธมหายานและชินโตเข้ามาสู่ปาเลา ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นับถือ อย่างไรก็ตาม หลังญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวญี่ปุ่นที่เหลือส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ในขณะที่บางส่วนยังคงนับถือศาสนาพุทธแต่หยุดปฏิบัติพิธีกรรมชินโต มีชาวมุสลิมเบงกอลประมาณ 400 คน
วัฒนธรรม

สังคมปาเลาดำเนินตามระบบสืบทอดทางมารดาอย่างเคร่งครัดมาก แนวทางปฏิบัติทางฝั่งมารดาปรากฏให้เห็นในประเพณีปาเลาเกือบทุกแง่มุม โดยเฉพาะในงานศพ การแต่งงาน การสืบทอดมรดก และการสืบทอดบรรดาศักดิ์แบบดั้งเดิม
อาหารได้แก่อาหารพื้นเมืองอย่างมันสำปะหลัง, เผือก, มัน, มันฝรั่ง, ปลา และเนื้อหมู และยังได้รับอิทธิพลอย่างหนักจากอาหารญี่ปุ่น อเมริกัน และฟิลิปิโน เนื่องจากมีแรงงานอพยพชาวฟิลิปปินส์จำนวนมาก ซุปค้างคาวผลไม้เป็นอาหารอันโอชะของชาวปาเลา เครื่องดื่มท้องถิ่นบางชนิด ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากมะพร้าวบนต้น เครื่องดื่มที่ทำจากรากของคาวา และการเคี้ยวหมากพลู ขนมหวานที่เรียกว่า ตามา ได้รับการพัฒนาขึ้นในปาเลา
หนังสือพิมพ์
ปาเลามีหนังสือพิมพ์อยู่หลายฉบับ:
- เรเงลเบเลา (1983–1985)
- เตียเบเลา (1992–ปัจจุบัน)
- ไอแลนด์ไทมส์
กีฬา
เบสบอลเป็นที่นิยมในปาเลานับตั้งแต่ชาวญี่ปุ่นนำเข้าในคริสต์ทศวรรษ 1920 และยังฟุตบอลทีมชาติที่บริหารโดยสมาคมฟุตบอลปาเลา แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก FIFA
อ้างอิง
- Compacts of Free Association – United States Department of the Interior
- 2020 Census of Population and Housing of the Republic of Palau (PDF) (Report). Vol. I Basic Tables. Koror, Palau: Office of Planning and Statistics. August 2022. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 November 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-06-21.
- "การประเมินประชากรโลก พ.ศ. 2560". ESA.UN.org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017.
- "Health Statistics – PalauGov.pw".
- "Palau". imf.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 January 2020. สืบค้นเมื่อ 25 January 2024.
- "Human Development Report 2023/24" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. 13 March 2024. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2024. สืบค้นเมื่อ 13 March 2024.
- เอกสารรัฐบาลใช้รูปแบบ ดด/วว/ปปปป "Pay-period Schedule for Calendar 2025" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2025-03-01.
- Constitution of Palau เก็บถาวร 26 พฤษภาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. (PDF). palauembassy.com. Retrieved 1 June 2013.
- "2015 Statistical Yearbook" (PDF) (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Republic of Palau Bureau of Budget and Planning Ministry of Finance. 1 February 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2023. สืบค้นเมื่อ 21 August 2018.
- Clark, Geoffrey; Anderson, Atholl; Wright, Duncan (2006). "Human Colonization of the Palau Islands, Western Micronesia". Journal of Island & Coastal Archaeology. 1 (2): 215–232. doi:10.1080/15564890600831705. S2CID 129261271.
- Smith, Alexander D. (2017). "The Western Malayo-Polynesian Problem". Oceanic Linguistics. University of Hawaiʻi Press. 56 (2): 435–490. doi:10.1353/ol.2017.0021. JSTOR 26408513. S2CID 149377092.
- Francis X. Hezel, SJ. "Catholic Missions in the Carolines and Marshall Islands". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 November 2017. สืบค้นเมื่อ 15 January 2015.
- Ming-chao, Tang (25 September 1978). "Referendum on the draft constitution for the Federated States of Micronesia, July 1978" (PDF). United Nations. p. 5. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2021. สืบค้นเมื่อ 12 June 2021.
- Nakayama, Tosiwo; Henry, Bethwel (14 September 1978). "Letter to the United Nations" (PDF). United Nations. pp. 8–10. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2021. สืบค้นเมื่อ 12 June 2021.
- Blust, Robert; Trussel, Stephen (2010). "*banua: inhabited land, territory supporting the life of a community". Austronesian Comparative Dictionary. Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 November 2022. สืบค้นเมื่อ 29 November 2022.
- "The Bais of Belau". Underwater Colours. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 July 2016. สืบค้นเมื่อ 25 May 2012.
- Etpison, Mandy (1994). "About Palau". Palau – Portrait of Paradise. Neco Marine Corp. ISBN 9780963787507. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 April 2001. สืบค้นเมื่อ 15 January 2023.
- "Palau". histclo.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2022. สืบค้นเมื่อ 12 November 2022.
- "Palau Ships". micsem.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2012. สืบค้นเมื่อ 12 November 2022.
- Hezel, Francis X.; Valle, Maria Teresa Del (1972). "Early European Contact with the Western Carolines: 1525-1750". The Journal of Pacific History. 7: 26–44. doi:10.1080/00223347208572199. ISSN 0022-3344. JSTOR 25168089. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2024. สืบค้นเมื่อ 25 April 2024.
- "Catholic Missions in the Carolines and Marshall Islands". micsem.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 November 2017. สืบค้นเมื่อ 12 November 2022.
- Balabo, Dino (10 December 2006). "Historians: Malolos Congress produced best RP Constitution". Philippine Star. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 November 2022. สืบค้นเมื่อ 12 August 2013.
- Perkins, Dorothy (1997). Japan Goes to War: A Chronology of Japanese Military Expansion from the Meiji Era to the Attack on Pearl Harbor (1868–1941). DIANE Publishing. p. 166. ISBN 9780788134272.
Admiral Takeo Takagi led the Philippines support force to Palau, an island 800 กิโลเมตร (500 ไมล์) east of the southern Philippines where he waited to join the attack.
- Year: 1947), UN Security Council (2nd (1964), Resolution 21 (1947) /: [adopted by the Security Council at its 124th meeting], of 2 April 1947. (ภาษาอังกฤษ)
- "Security Council Resolution 21 – UNSCR". unscr.com. สืบค้นเมื่อ 2025-03-10.
- "Pacific Island Battleground Now the Republic of Belau". Bangor, Maine, USA. Associated Press. 23 January 1981. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2023. สืบค้นเมื่อ 18 November 2020.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อgao-08-732_p7
- United Nations General Assembly Resolution 49/63, Admission of the Republic of Palau to Membership in the United Nations, adopted 15 December 1994 เก็บถาวร 25 พฤษภาคม 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. United Nations. Retrieved 12 September 2015.
- "The President of the Republic of Palau to Visit Japan". Tokyo: Ministry of Foreign Affairs of Japan. 15 December 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2023. สืบค้นเมื่อ 12 January 2018.
- Judah, Jacob (2024-06-02). "A Pacific Island With Ties to Taiwan Was Hacked. Was It Political?". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2024-06-03.
- Fackler, Martin (9 April 2015). "Ahead of World War II Anniversary, Questions Linger Over Stance of Japan's Premier". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 January 2023. สืบค้นเมื่อ 16 February 2020.
- "Pacific nations extend bans on tuna fishing". Radio Australia. East West Center. 5 October 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 November 2022. สืบค้นเมื่อ 6 October 2010.
- "PH, Palau agree to enhance ties". Manila Bulletin. 16 February 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 December 2019. สืบค้นเมื่อ 20 March 2018.
- "International Database". www.census.gov. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 February 2017. สืบค้นเมื่อ 2023-06-05.
- R. G. Crocombe (2007). Asia in the Pacific Islands: Replacing the West. editorips@usp.ac.fj. pp. 60, 61. ISBN 978-982-02-0388-4. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2023. สืบค้นเมื่อ 22 August 2017.
- "CIA – The World Factbook – Field Listing :: Languages". Central Intelligence Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2009. สืบค้นเมื่อ 17 February 2010.
- Lewis, Paul M., บ.ก. (2009). "Languages of Palau". SIL International. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 May 2010. สืบค้นเมื่อ 17 February 2010.
- Brigham Young University—Hawaii Campus (1981), p. 36
- "Fruit bat soup has chicken-like taste". Newcastle Herald. 12 June 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 March 2018. สืบค้นเมื่อ 9 March 2018.
- "Tama – A Year Cooking the World". ayearcookingtheworld.com. 20 December 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2018. สืบค้นเมื่อ 24 January 2018.
- Dawrs, Stu. "Research Guides: Pacific Islands Newspapers : Palau". guides.library.manoa.hawaii.edu. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2021. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
- "Homepage". Island Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
รัฐบาล
- Republic of Palau National Government
- Embassy of the Republic of Palau in Japan
- Chief of State and Cabinet Members
- Honorary Consulate of the Republic of Palau to the United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland
- Honorary Consulate-General of Palau to Belgium
ข่าวท้องถิ่น
- Island Times
- Palau Wave Radio
- Pacific Note
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ ประเทศปาเลา, ประเทศปาเลา คืออะไร? ประเทศปาเลา หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!