ประวัติศาสตร์โปแลนด์
ประวัติศาสตร์โปแลนด์ มีรากฐานในการอพยพย้ายถิ่นครั้งแรกของชาวสลาฟ ที่ได้ก่อตั้งถิ่นฐานชาวสลาฟตะวันตกอย่างถาวรในแผ่นดินโปแลนด์ในช่วงต้นสมัยกลาง ราชวงศ์แรกที่ได้ปกครองคือ ราชวงศ์เพียส ซึ่งได้ปรากฏในช่วงศตวรรษที่ 10 ในปีคริสต์ศักราช ดยุค มีเอสโกที่ 1 (ค.ศ. 992) ได้รับการนับถือว่าเป็นผู้สร้างรัฐโปแลนด์โดยพฤตินัยและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับการรับเอาศาสนาคริสต์ตะวันตกมานับถือภายหลังจากที่พระองค์ได้เข้าพิธีศีลล้างบาปในปี ค.ศ. 966 ดัชชีแห่งโปแลนด์ของมีเอสโกได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างเป็นทางการให้เป็นอาณาจักรสมัยกลางในปี ค.ศ. 1025 โดยพระโอรสของพระองค์ที่มีพระนามว่า โบเรสเลาสที่ 1 ผู้กล้าหาญ ทรงได้รู้จักสำหรับการขยายทางทหารภายใต้การปกครองของพระองค์ เป็นไปได้ว่าความประสบความสำเร็จอย่างของกษัตริย์เพียสอาจเป็นองค์สุท้าย พระเจ้าเครซิเมียร์ที่ 3 มหาราช ทรงเป็นผู้ปกครองที่ทรงมีพระปรีชาญาณอย่างมากในช่วงยุครุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและขยายดินแดนเพิ่มเติมก่อนที่พระองค์จะสวรรคต ในปี ค.ศ. 1370 โดยไร้ซึ่งรัชทายาท ยุคสมัยราชวงศ์ยากีลลันในศตวรรษที่ 14-16 ทำให้เกิดความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแกรนด์ดัชชีลิทัวเนีย ยุคสมัยฟื้นฟูวัฒนธรรมในโปแลนด์และการขยายดินแดนอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดได้มีการก่อตั้งเครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนียในปี ค.ศ. 1569
ในช่วงแรก เครือจักรภพสามารถรักษาค้ำจุนระดับความเจริญรุ่งเรืองที่ประสบความสำเร็จในช่วงสมัยยากีลลัน ในขณะที่ระบบการเมืองได้ครบกำหนดให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตามในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 รัฐขนาดใหญ่ได้ตกเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเสื่อมถอยอันเป็นต้นเหตุมาจากสงครามซึ่งทำลายล้างและการเสื่อมโทรมของระบบการเมือง การปฏิรูปภายในประเทศที่สำคัญได้รับการแนะนำในช่วงเวลาต่อมาในศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐธรรมนูญ วันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1791 แต่อำนาจประเทศเพื่อนบ้านไม่ยอมให้เกิดกระบวนการปฏิรูปเพื่อความก้าวหน้า ความเป็นเอกราชที่ดำรงอยู่ของเครือจักรภพได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1795 ภายหลังจากการถูกรุกรานและแบ่งแยกดินแดนโปแลนด์โดยจักรวรรดิรัสเซีย ราชอาณาจักรปรัสเซีย และออสเตรียภายใต้การนำของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1795 ถึง ปี ค.ศ. 1918 ความเป็นเอกราชของรัฐโปแลนด์ที่มีอยู่อย่างไม่แท้จริง แม้ว่าจะมีขบวนการต่อต้านที่ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง ภายหลังจากความล้มเหลวของการก่อการกำเริบทางทหารครั้งสุดท้ายต่อจักรวรรดิรัสเซีย การก่อการกำเริบเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1863 ประเทศชาติยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของตนผ่านทางการเริ่มการศึกษาและโครงการ "งานออแกนิต" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมให้มีความทันสมัย โอกาสที่จะได้รับเอกราชกลับคืนมาก็ได้ปรากฏให้เห็นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่ออำนาจจักรวรรดิทั้งสามที่เป็นผู้แบ่งแยกประเทศได้อ่อนแอลงอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากสงครามและการปฏิวัติ
สาธารณรัฐโปแลนด์ที่สองได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1918 ดำรงอยู่ในฐานะเป็นรัฐเอกราชจนกระทั่งปี ค.ศ. 1939 เมื่อนาซีเยอรมนีและสหภาพโซเวียตได้ทำลายมันในช่วงเยอรมันบุกครองโปแลนด์ ตามมาด้วยโซเวียตบุกครองโปแลนด์ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวโปแลนด์นับหลายล้านคนเสียชีวิตในช่วงเวลาที่โปแลนด์อยู่ภายใต้การยึดครองของนาซี ระหว่างปี ค.ศ. 1939 และ ค.ศ. 1945 ในขณะที่เยอรมันได้จัดประเภทกลุ่มเชื้อชาติพันธุ์อย่างชาวโปลและชาวสลาฟอื่นๆ ชาวยิวและชาวโรมานี(ยิปซี) ว่าเป็นพวกต่ำกว่ามนุษย์ ผู้มีอำนาจนาซีได้มีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวโปล ชาวยิว และชาวโรมานี โดยเฉพาะชาติพันธุ์สองกลุ่มสุดท้ายที่เป็นเป้าหมายเพื่อการกำจัดทิ้งทันที ในขณะที่ความสำเร็จในการกำจัดชาวโปล และชาวสลาฟอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวคือ เกเนอราลพลานอ็อสท์ (แผนสามัญสำหรับตะวันออก) ที่ถูกคิดขึ้นโดยระบอบนาซี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพลัดถิ่นโปแลนด์ยังคงทำหน้าที่ต่อไปในช่วงตลอดสงครามและฝ่ายโปแลนด์ได้มีส่วนร่วมในชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรผ่านทางการเข้าร่วมการทัพทางทหารทั้งแนวรบด้านตะวันตกและตะวันออก การรุกทางด้านตะวันตกของกองทัพแดงแห่งโซเวียตในปี ค.ศ. 1944 และ ค.ศ. 1945 ได้บีบบังคับให้กองทัพเยอรมันล่าถอยออกไปจากโปแลนด์ซึ่งนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบริวารคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียตที่เป็นที่รู้จักกันคือ สาธารณรัฐประชาชนโปแลนด์ ในปี ค.ศ. 1952
ด้วยผลมาจากการปรับเปลี่ยนดินแดนที่อยู่ใต้อาณัติโดยฝ่ายชนะของฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1945 ศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ที่เปลี่ยนไปอย่างจริงจังไปยังทางด้านตะวันตกและได้กำหนดดินแดนโปแลนด์ขึ้นมาใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ได้สูญเสียบุคคลากรหลายเชื้อชาติทางประวัติศาสร์ของพวกเขาผ่านทางการกำจัด การถูกขับไล่ และการย้ายถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในช่วงระหว่างและหลังสงคราม ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1980 ขบวนการการปฏิรูปของโปแลนด์ โซลิดาริตี ได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติจากรัฐคอมมิวนิสต์สู่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมและประชาธิปไตยเสรีนิยมแบบรัฐสภา กระบวนการนี้ได้ส่งผลทำให้เกิดการก่อตั้งรัฐโปแลนด์สมัยใหม่คือ สาธารณรัฐโปแลนด์ที่สาม ซึ่งถูกก่อตั้งในปี ค.ศ. 1989
อ้างอิง
- Biskupski, M. B. The History of Poland. Greenwood, 2000. 264 pp. online edition
- The Cambridge History of Poland, 2 vols., Cambridge: Cambridge University Press, 1941 (1697–1935), 1950 (to 1696). New York: Octagon Books, 1971 online edition vol 1 to 1696, old fashioned but highly detailed
- Frucht, Richard. Encyclopedia of Eastern Europe: From the Congress of Vienna to the Fall of Communism Garland Pub., 2000 online edition
- Oskar Halecki. History of Poland, New York: Roy Publishers, 1942. New York: Barnes and Noble, 1993, ISBN 0-679-51087-7
- Kenney, Padraic. “After the Blank Spots Are Filled: Recent Perspectives on Modern Poland,” Journal of Modern History Volume 79, Number 1, March 2007 pp 134–61, historiography
- Stefan Kieniewicz, History of Poland, Hippocrene Books, 1982, ISBN 0-88254-695-3
- Kloczowski, Jerzy. A History of Polish Christianity. Cambridge U. Pr., 2000. 385 pp.
- Lerski, George J. Historical Dictionary of Poland, 966–1945. Greenwood, 1996. 750 pp. online edition
- Leslie, R. F. et al. The History of Poland since 1863. Cambridge U. Press, 1980. 494 pp.
- Lewinski-Corwin, Edward Henry. The Political History of Poland (1917), well-illustrated; 650pp online at books.google.com
- Litwin Henryk, Central European Superpower, BUM , 2016.
- Iwo Cyprian Pogonowski. Poland: An Illustrated History, New York: Hippocrene Books, 2000, ISBN 0-7818-0757-3
- Pogonowski, Iwo Cyprian. Poland: A Historical Atlas. Hippocrene, 1987. 321 pp.
- Radzilowski, John. A Traveller's History of Poland, Northampton, Massachusetts: Interlink Books, 2007, ISBN 1-56656-655-X
- Roos, Hans. A History of Modern Poland (1966)
- Sanford, George. Historical Dictionary of Poland. Scarecrow Press, 2003. 291 pp.
- Wróbel, Piotr. Historical Dictionary of Poland, 1945–1996. Greenwood, 1998. 397 pp.
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์โปแลนด์, ประวัติศาสตร์โปแลนด์ คืออะไร? ประวัติศาสตร์โปแลนด์ หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!