กรุงลอนดอน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก )
ลอนดอน

London
เมืองหลวง
image
สะพานทาวเวอร์ที่พาดข้ามแม่น้ำเทมส์กับทิวทัศน์ตึกเดอะชาร์ดและย่านเซาธาคทางด้านซ้ายของรูปและเขตของนครลอนดอนกับทิวทัศน์ของหอคอยแห่งลอนดอนทางด้านขวา
image
ลอนดอนอาย
image
เสาเนลสัน
image
มหาวิหารเซนต์พอล
image
พิคะดิลีเซอร์เคิส
image
ย่านแคนารีวาร์ฟ
image
พระราชวังเวสต์มินสเตอร์และหอนาฬิกาบิกเบนทางขวา
image
ตราอาร์ม
image
แผนที่ลอนดอนในสหราชอาณาจักร
ประเทศimage สหราชอาณาจักร
ภาคลอนดอน
เขตนครหลวง และ ลอนดอนโบโร 32 แห่ง
ก่อตั้งโดยชาวโรมันโดยชื่อว่า ลอนดิเนียม ประมาณ ค.ศ. 50
การปกครอง
  หน่วยงานท้องถิ่นสำนักเขตนครลอนดอนและปริมณฑล
  สภาสภาลอนดอน
  นายกเทศมนตรีซาดีก คาน (พรรคแรงงาน)
  สำนักงานใหญ่โถงเมือง
  รัฐสภา UK
 - สภาลอนดอน
 - รัฐสภายุโรป
74 เขตเลือกตั้ง
14 เขตเลือกตั้ง
เขตเลือกตั้งลอนดอน
พื้นที่
  นครหลวงและปริมณฑล1,580 ตร.กม. (609 ตร.ไมล์)
ความสูง[1]24 เมตร (79 ฟุต)
ประชากร
 (ในปี พ.ศ. 2549)[2] · [3][4] · [5]
  นครหลวงและปริมณฑล7,355,400 คน
  ความหนาแน่น4,761 คน/ตร.กม. (12,331 คน/ตร.ไมล์)
  เขตเมือง8,278,251 คน
  รวมปริมณฑล13,063,441 คน
  เดมะนิมลอนดอนเนอร์ (Londoner)
  ชนกลุ่ม
[6]
69.6% ขาว
58.2% ขาวบริเตน
2.6% ไอริชขาว
8.8% ผิวขาวอื่น ๆ
3.4% ลูกครึ่ง
1.0% ขาวและคาริบเบียนดำ
0.5% ขาวและแอฟริกาดำ
0.9% เอเชียขาวและใต้
0.9% ขาวและดำอื่น ๆ
12.9% เอเชียใต้
6.4% อินเดีย
2.2% ปากีสถาน
2.2% บังกลาเทศ
2.0% เอเชียใต้อื่น ๆ
10.8% ดำ
4.4% คาริบเบียนดำ
5.5% แอฟริกาดำ
0.8% ดำอื่น ๆ
3.3% เอเชียตะวันออกและอื่น ๆ
1.4% จีน
1.9% อื่น ๆ
เขตเวลาUTC+0 (GMT)
  ฤดูร้อน
(เวลาออมแสง)
UTC+1 (BST)
รหัสไปรษณีย์หลากหลาย
เว็บไซต์www.london.gov.uk

ลอนดอน (อังกฤษ: London, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈlʌndən/ ลันเดิน) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ บริเวณปากแม่น้ำซึ่งไหลลงสู่ทะเลเหนือ บริเวณนี้ยังเป็นย่านชุมชมเก่าแก่ซึ่งมีผู้อาศัยมากกว่า 2,000 ปี ลอนดอนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก[7] มีประชากรจำนวน 8,866,180 คนใน ค.ศ. 2022 จึงถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในยุโรป คิดเป็น 13.4% ของประชากรในสหราชอาณาจักร และ 16% ของประชากรในประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุนี้ลอนดอนจึงมีสถานะเป็นเมกะซิตี เขตมหานครลอนดอนยังถือเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันตกด้วยจำนวนประชากร 15 ล้านคน[8] คำขวัญภาษาละตินของนครลอนดอน คือ “Domine dirige nos” แปลว่า “พระเจ้าทรงนำทางพวกเรา“ ชาวลอนดอนมักถูกเรียกว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner)

ลอนดอนถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งโดยชาวโรมันในชื่อ ล็อนดินิอูง ราวคริสต์ศักราช 47-50[9]นครเวสต์มินสเตอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงลอนดอนยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาล และ รัฐสภาสหราชอาณาจักร นครลอนดอนเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในช่วงศตวรรษที่ 19[10] ชื่อ "ลอนดอน" ยังสื่อถึงมหานครซึ่งตั้งอยู่บริเวณโดยรอบ โดยในอดีตเคยใช้สื่อถึงการแบ่งเทศมณฑลของอังกฤษอันประกอบไปด้วย มิดเดิลเซกซ์, เอสเซกซ์, เซอร์รีย์, เคนต์ และ ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์[11] ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานท้องถิ่น 33 แห่งและหน่วยงานบริหารกรุงลอนดอน (Greater London Authority) ตั้งแต่ ค.ศ. 1965 เป็นต้นมา[12]

ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน[13] การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเคยมีสถานะเป็นเมืองหลวงของโลก และเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดในโลกมาถึงปัจจุบัน ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก[14][15] ลอนดอนยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการศึกษาของยุโรป และเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง อาทิ อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอนซึ่งมีจุดเด่นด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ประยุกต์, วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน มีชื่อเสียงด้านสังคมศาสตร์และการเงิน รวมถึงยูนิเวอร์ซิตีคอลลิจลันเดินซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานวิจัยระดับโลก[16][17] ลอนดอนเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุดในยุโรป และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมีท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในยุโรป โดยมีท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์เป็นท่าอากาศยานหลัก[17] แม้จะมีการถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนภายหลังเบร็กซิต ทว่าลอนดอนยังคงสถานะการเป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดของยุโรป และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก[18] ลอนดอนยังเป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมของโลกโดยมีภาษามากกว่า 300 ภาษาถูกใช้ในลอนดอน[19]

ลอนดอนมีแหล่งมรดกโลกจำนวน 4 แห่ง: สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิว, หอคอยแห่งลอนดอน, เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (รวมถึงโบสถ์เซนต์มาร์กาเร็ต) และเมืองนาวีกรีนิชซึ่งเป็นที่ตั้งหอดูดาวหลวงเกรนิช และการกำหนดเวลามาตรฐานกรีนิช[20] สถานที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม, ลอนดอนอาย, พิคะดิลีเซอร์เคิส, อาสนวิหารนักบุญเปาโล, สะพานทาวเวอร์ และ จัตุรัสทราฟัลการ์ กรุงลอนดอนยังมีจำนวนพิพิธภัณฑ์, หอศิลป์, หอสมุด และสถานที่ทางวัฒนธรรมมากที่สุดในสหราชอาณาจักรซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์บริติช, หอศิลป์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ, เทตมอเดิร์น, หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ และ โรงละครรวมทั้งโรงภาพยนตร์ชื่อดังหลายแห่ง และเป็นที่ตั้งของภัตตาคารระดับโลก ลอนดอนยังเป็นที่ตั้งของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของพรีเมียร์ลีกหลายสโมสร สนามกีฬาเวมบลีย์ยังเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงของโลก ถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญหลายครั้ง รวมถึงการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน และ ฟุตบอลเอฟเอคัพ ลอนดอนยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ ได้แก่ ลอนดอนมาราธอน และเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012

ประวัติศาสตร์

[]

ชื่อ ลอนดอน นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะมาจากชื่อกรุงลอนดอนในสมัยโรมันว่า ลอนดีนิอุม (ละติน: Londinium) ซึ่งเป็นภาษาละติน และเพี้ยนมาเป็นชื่อ "ลอนดอน" ในภายหลัง ถึงแม้ว่าชาวโรมันจะพิชิตอังกฤษได้ก็ตาม ลอนดิเนียมแห่งนี้อยู่เพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น ในปี ค.ศ. 61 ชาวเผ่าไอซินี นำโดยราชินีโบดิก้า บุกเข้ายึดลอนดึเนียม เผาทั้งเมือง และเข่นฆ่าชาวโรมันอย่างเหี้ยมโหด[21] แต่ในเวลาถัดมา ชาวโรมันสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ และชนะการรบกับราชินีโบดิก้า ในราวศตวรรษที่ 2 ลอนดิเนียมรุ่งเรืองถึงขีดสุด และลอนดอนโรมันมีประชากรประมาณ 60,000 คน

ลอนดอนประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ส่งผลให้ผู้คนเชื่อว่าเลข 666 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย การสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาถึง 10 ปีด้วยกัน แต่ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2560 กรุงลอนดอนนอกจากประสบกับเหตุก่อการร้ายยังประสบอัคคีภัย มีคนเสียชีวิต รวม 20 ราย หากรวมผู้ก่อการร้ายด้วยจะเป็น 24ราย

การเมืองการปกครอง

[]

การปกครองท้องถิ่น

[]
image
ตราอาร์มของบรรษัทนครลอนดอน[22]

การบริหารของลอนดอนแบ่งออกเป็นสองระดับ ได้แก่ ระดับทั่วทั้งเมือง ซึ่งมีบทบาทด้านยุทธศาสตร์ และระดับท้องถิ่นพื้นฐาน การบริหารระดับทั่วทั้งเมืองอยู่ภายใต้การกำกับขององค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน (Greater London Authority หรือย่อว่า GLA) ส่วนการบริหารระดับท้องถิ่นพื้นฐานดำเนินการโดยองค์การบริหารย่อย 33 แห่ง[23] องค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอนประกอบด้วยสององค์ประกอบที่มาจากการเลือกตั้ง ได้แก่ นายกเทศมนตรีลอนดอน ซึ่งมีอำนาจบริหาร และสภาลอนดอน ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการตัดสินใจของนายกเทศมนตรี รวมถึงพิจารณาอนุมัติหรือปฏิเสธข้อเสนองบประมาณประจำปี องค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอนมีหน้าที่ดูแลระบบขนส่งส่วนใหญ่ของลอนดอนผ่านหน่วยงานในกำกับคือ การขนส่งแห่งลอนดอน (Transport for London หรือย่อว่า TfL) รวมทั้งกำกับดูแลตำรวจและหน่วยดับเพลิงของเมือง และกำหนดวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ[24] สำนักงานใหญ่ขององค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน ตั้งอยู่ที่ซิตีฮอลล์ เขตนิวอัม นายกเทศมนตรีตั้งแต่ ค.ศ. 2016 คือ ซาดิก ข่าน ผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมุสลิมคนแรกของเมืองหลวงในโลกตะวันตก[25] แผนกลยุทธ์ด้านการวางผังเมืองตามกฎหมายของนายกเทศมนตรีเผยแพร่ในชื่อ ลอนดอนแพลน (London Plan) ซึ่งมีการปรับปรุงล่าสุดใน ค.ศ. 2011[26]

องค์การบริหารท้องถิ่นระดับพื้นฐาน ประกอบด้วย สภาของลอนดอนโบโร 32 แห่ง และบรรษัทนครลอนดอน[27] ซึ่งรับผิดชอบการให้บริการสาธารณะท้องถิ่นระดับพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่ เช่น การวางผังเมืองท้องถิ่น โรงเรียน ห้องสมุด การพักผ่อนและนันทนาการ บริการสังคม ถนนท้องถิ่น และการเก็บขยะ[28] บางภารกิจ เช่น การจัดการขยะ จะดำเนินการร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงาน ในปีงบประมาณ 2009–2010 ค่าใช้จ่ายรวมของสภาลอนดอนและองค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน มีมูลค่ากว่า 22 พันล้านปอนด์ (สภาโบโร 14.7 พันล้านปอนด์ และองค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน 7.4 พันล้านปอนด์)[29]

หน่วยดับเพลิงลอนดอน (London Fire Brigade) เป็นหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยตามกฎหมายของเกรเทอร์ลอนดอน ดำเนินการโดย คณะกรรมการวางแผนภาวะฉุกเฉินและดับเพลิงลอนดอน (London Fire and Emergency Planning Authority) และเป็นหน่วยดับเพลิงที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก[30]บริการรถพยาบาลภายใต้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ให้บริการโดย บริการรถพยาบาลลอนดอน (London Ambulance Service หรือย่อว่า LAS) ซึ่งเป็นบริการรถพยาบาลฉุกเฉินฟรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก[31] มูลนิธิรถพยาบาลทางอากาศแห่งลอนดอน (London's Air Ambulance Charity) จะดำเนินการร่วมกับบริการรถพยาบาลลอนดอนเมื่อจำเป็น ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งในสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน (HM Coastguard) และสถาบันกู้ชีพทางเรือแห่งชาติ (Royal National Lifeboat Institution หรือย่อว่า RNLI) ให้บริการบนแม่น้ำเทมส์ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของการท่าเรือลอนดอน (Port of London Authority) ตั้งแต่ประตูน้ำเทดดิงตันถึงปากแม่น้ำ[32]

การปกครองระดับชาติ

[]
image
บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ที่พำนักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร

ลอนดอนเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กระทรวงต่าง ๆ และบ้านพักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ตั้งอยู่ใกล้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ บริเวณไวต์ฮอลล์[33] ลอนดอนมีสมาชิกสภาสามัญชนทั้งหมด 75 คน ณ เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2024 ประกอบด้วยสมาชิกที่สังกัดพรรคแรงงาน 59 คน พรรคอนุรักษนิยม 9 คน พรรคเสรีประชาธิปไตย 6 คน และนักการเมืองอิสระ 1 คน[34] ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำลอนดอนก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1994 อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนี้ว่างลงมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2024

ตำรวจและอาชญากรรม

[]

การดูแลความสงบเรียบร้อยในเกรเทอร์ลอนดอน ยกเว้นนครลอนดอน ดำเนินการโดยตำรวจนครบาล (Metropolitan Police หรือย่อว่า "The Met") ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของนายกเทศมนตรีผ่าน สำนักงานนายกเทศมนตรีด้านตำรวจและอาชญากรรม (Mayor's Office for Policing and Crime หรือย่อว่า MOPAC)[35] ตำรวจนครบาลมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า สกอตแลนด์ยาร์ด ตามที่ตั้งของสำนักงานเดิมซึ่งอยู่บนถนนเกรตสกอตแลนด์ยาร์ด ในย่านไวต์ฮอลล์ ส่วนนครลอนดอนมีหน่วยตำรวจของตนเองคือ ตำรวจนครลอนดอน (City of London Police)[36] หมวกทรงสูงแบบผู้คุม (custodian helmet) ที่ตำรวจนครบาลเริ่มสวมตั้งแต่ ค.ศ. 1863 ถูกยกย่องว่าเป็น "สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม" และ "สัญลักษณ์ของการบังคับใช้กฎหมายแบบบริทิช"[37] ส่วนป้อมตำรวจสีน้ำเงิน ที่ตำรวจนครบาลเริ่มนำมาใช้ใน ค.ศ. 1929 ซึ่งเป็นต้นแบบของทาร์ดิส (TARDIS) ในซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องดอกเตอร์ฮู เคยปรากฏให้เห็นทั่วไปในลอนดอนและเมืองต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักร[38]

image
สำนักงานใหญ่เอ็มไอ 6 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ที่อาคารเอสไอเอส ฉากของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ (สายลับเอ็มไอ 6 ในจินตนาการ) หลายตอนได้มาถ่ายทำที่นี่

ตำรวจขนส่งบริทิช (British Transport Police) รับผิดชอบด้านการตำรวจบนการรถไฟแห่งชาติ รถไฟใต้ดินลอนดอน รถไฟรางเบาด็อกแลนด์ และรถรางแทรมลิงก์[39] ส่วนตำรวจกระทรวงกลาโหม (Ministry of Defence Police) เป็นหน่วยตำรวจพิเศษในลอนดอนที่โดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชนทั่วไป[40]หน่วยข่าวกรองภายในประเทศที่เรียกว่า เอ็มไอ 5 มีสำนักงานใหญ่ที่เทมส์เฮาส์ ซึ่งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ส่วนหน่วยข่าวกรองต่างประเทศที่เรียกว่า เอ็มไอ 6 มีสำนักงานใหญ่ที่อาคารเอสไอเอส บนฝั่งใต้ของแม่น้ำเทมส์[41]

อัตราอาชญากรรมแตกต่างกันมากในแต่ละพื้นที่ของลอนดอน ข้อมูลสถิติอาชญากรรมจะเผยแพร่ในระดับหน่วยงานท้องถิ่นและระดับเขต[42] ใน ค.ศ. 2015 มีคดีฆาตกรรม 118 คดี เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 จาก ค.ศ. 2014[43] อาชญากรรมที่บันทึกไว้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในลอนดอน โดยเฉพาะอาชญากรรมรุนแรงและการฆาตกรรมด้วยการแทงหรือวิธีอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2018 ถึงกลางเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 มีคดีฆาตกรรม 50 คดี การตัดงบประมาณตำรวจในลอนดอนอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุ แม้จะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย[44] อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี ค.ศ. 2022 ตัวเลขคดีฆาตกรรมลดลงเหลือ 109 คดี และอัตราการฆาตกรรมในลอนดอนยังคงต่ำกว่าเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก[45]

ฤดูกาลและภูมิอากาศ

[]

สำหรับฤดูกาลโดยทั่วไปของอังกฤษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง 4 ฤดูในหนึ่งวันอีกด้วย นั่นก็เพราะในบางวันที่ลอนดอนจะมีทั้งแดดออก ฝนตก หนาวเย็นและอบอุ่นสลับกันไป ซึ่งอากาศในช่วงกลางวันจะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยได้ 5-10 องศา และอากาศในตอนกลางคืนจะหนาวเย็นกว่าได้ประมาณ 5 องศา

1.ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยที่สุด อาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไป หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันซึ่งทั้งนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะอยู่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

  • เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส
  • เดือนเมษายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 11 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 องศาเซลเซียส

2. ฤดูร้อน

ฤดูร้อน สภาพอากาศจะมีความอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีแสงแดดส่องตลอดวัน โดยช่วงฤดูร้อนก็จะอยู่ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และยังเป็นช่วงที่กลางวันยาวนานมาก บางช่วง 2 ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งจะเริ่มมืด โดย

  • เดือนมิถุนายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 องศาเซลเซียส
  • เดือนกรกฎาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส
  • เดือนสิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส

3. ฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมามากกว่าปกติ แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศที่น่าเที่ยวไม่น้อย โดยช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน โดย

  • เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 17 องศาเซลเซียส
  • เดือนตุลาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส

4. ฤดูหนาว

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีหิมะตก เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับหิมะเป็นที่สุด แต่จะมีหิมะตกบางพื้นที่เท่านั้น และกลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวันอีกด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือช่วงนี้จะมืดเร็วกว่าปกตินั่นเอง บางช่วงยังไม่ 5 โมงเย็นท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว ซึ่งช่วงฤดูหนาวก็จะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมาพันธ์ โดย

  • เดือนธันวาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส

เครดิต: ตะลอนเที่ยวดอตคอม

เศรษฐกิจ

[]

ลอนดอนถูกจัดอับดับโดย Mastercard Worldwide (มาสเตอร์การ์ด เวิรลด์ไวด์) ว่าเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อันดับหนึ่งของโลก [46] ลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางของการอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมธนาคารและการประกันภัยด้วย การอุตสาหกรรมในลอนดอนมีความหลากหลายตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ไม่มีฝีมือจนถึงช่างฝีมือ รวมทั้งอุตสาหกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านค้าต่าง ๆ ในปี ค.ศ. 1747 อาชีพของคนในลอนดอน ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีถึง 215 อาชีพ และเพิ่มขึ้นเป็น 492 อาชีพในปี ค.ศ. 1792 ในปี ค.ศ. 1700 ร้อยละ 20 ของประชากรในอังกฤษที่อาศัยอยู่ในเมือง 2 ใน 3 ของประชากรเมืองเหล่านี้อาศัยอยู่ในลอนดอน การขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศได้ส่งผลให้กิจการธนาคารในลอนดอนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ลอนดอนเป็นที่ตั้งของธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ตลาดหุ้น กิจการการประกันภัย ฯลฯ การเจริญเติบโตดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการของการใช้นโยบายการค้าระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งอังกฤษได้หันมาใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม (liberalism) แทนที่นโยบายพาณิชย์นิยม (mercantilism).

image
Harrods

สถานที่ท่องเที่ยว

[]

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม มหาวิหารเวสมินสเตอร์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน สะพานลอนดอน หอคอยลอนดอน ซึ่งเป็นที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเนิ่นนาน

อ้างอิง

[]
  1. "ลอนดอน, สหราชอาณาจักร พยากรณ์อากาศ (ที่สนามบินฮีทโธรว์)" (online). สืบค้นเมื่อ 2007-03-16. (อังกฤษ)
  2. "T 08: Selected age groups for local authorities in the United Kingdom; estimated resident population; Mid-2006 Population Estimates" (XLS). Office for National Statistics. 22 สิงหาคม พ.ศ. 2550. สืบค้นเมื่อ 2007-08-22. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)(อังกฤษ)
  3. KS01 Usual resident population: Census 2001, Key Statistics for urban areas www.statistics.gov.uk (อังกฤษ)
  4. - World: metropolitan areas (อังกฤษ)
  5. "ประชาการของเขตพื้นที่นครลอนดอน". 28 สิงหาคม พ.ศ. 2550. สืบค้นเมื่อ 2007-08-27. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)(อังกฤษ)
  6. . Neighbourhood Statistics. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-12. สืบค้นเมื่อ 2008-04-29. (อังกฤษ)
  7. "The Global Financial Centres Index 10". zyen.com. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  8. "Major Agglomerations of the World - Population Statistics and Maps". www.citypopulation.de. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  9. "London Government Act: Essex, Kent, Surrey and Middlesex 50 years on". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2013-08-01. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  10. Chambers, W., The Postman's Knock, Chambers's Edinburgh Journal (1857)
  11. "The baffling map of England's counties". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2014-04-25. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  12. Politics UK. Internet Archive. Harlow, England : Pearson Education. 2007. ISBN 978-1-4058-2411-8.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  13. ,8209-2081045, 00.html Focus: Squeezing the Big Apple -Louise Armitstead, Richard Fletcher, Mark Kleinman and Dominic Rushe (March 12, 2006)[ลิงก์เสีย] business.timesonline.co.uk (อังกฤษ)
  14. "Leading 200 science cities | Nature Index 2021 Science Cities | Supplements | Nature Index". www.nature.com. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  15. Muller,Bloomberg, Alexandra. "UK's stock market is in a 'doom loop' that's undermining London's status as a global financial capital, investment bank says". Fortune (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  16. "World University Rankings". Times Higher Education (THE) (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  17. "QS World University Rankings 2022". Top Universities (ภาษาอังกฤษ). 2024-09-13.
  18. "London is Europe's leading economic powerhouse, says new report | London City Hall". www.london.gov.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  19. . www.cilt.org.uk (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-24. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  20. Centre, UNESCO World Heritage. "United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland - UNESCO World Heritage Convention". UNESCO World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ).
  21. "BBC - History : British History Timeline". www.bbc.co.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  22. Vinycomb, John (1909). "The Heraldic Dragon". Fictitious and Symbolic Creatures in Art. Internet Sacred Text Archive. จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 May 2017. สืบค้นเมื่อ 23 July 2015.
  23. "Who runs London – Find Out Who Runs London and How". London Councils. สืบค้นเมื่อ 28 March 2021.
  24. . www.londoncouncils.gov.uk (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-06. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  25. "London Mayor and Assembly 2016 election results - BBC News". www.bbc.co.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  26. anonymous. . www.london.gov.uk (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-08. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  27. . directory.londoncouncils.gov.uk (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-11-08. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  28. "London Government". politics.co.uk. สืบค้นเมื่อ 19 June 2023.
  29. "Local Government Financial Statistics England No.21 (2011)" (PDF). 2011. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2018. สืบค้นเมื่อ 25 March 2021.
  30. Brigade, London Fire. . www.london-fire.gov.uk (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-29. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  31. . London Ambulance Service NHS Trust. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 April 2011. สืบค้นเมื่อ 25 August 2009.
  32. "Port of London Act | Port of London Authority". pla.co.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  33. "Prime Minister's Office, 10 Downing Street". GOV.UK (ภาษาอังกฤษ). 2024-12-05. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  34. "CBP-10009.pdf" (PDF). UK Parliament.
  35. Secretariat, M. P. A. "ww88" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  36. . www.london.gov.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-21. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  37. "Just how practical is a traditional Bobby's helmet?". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2015-01-22. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  38. Ward, David (2002-10-23). "Police lose fight to ground Tardis". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  39. "About us". www.btp.police.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  40. . www.mod.police.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-06. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  41. Andrew, Christopher (2009). The Defence of the Realm: The Authorized History of MI5. Allen Lane. p. 134. ISBN 978-0-713-99885-6.
  42. "MPS Recorded Crime: Geographic Breakdown – London Datastore" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  43. "London murder rate up 14% over the past year". ITV News. 24 January 2016. สืบค้นเมื่อ 16 February 2016.
  44. Crerar, Pippa; Gayle, Damien (2018-04-10). "Sadiq Khan holds City Hall summit on how to tackle violent crime". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  45. "Met Police: London homicide figures fall in 2022". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-01-06. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  46. ลอนดอนรั้งศูนย์พาณิชย์โลก กทม.ติดที่ 36 (อังกฤษ)

แหล่งข้อมูลอื่น

[]

วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ กรุงลอนดอน, กรุงลอนดอน คืออะไร? กรุงลอนดอน หมายความว่าอะไร?

0 ตอบกลับ

ฝากคำตอบ

ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?
คุณสามารถร่วมเขียนได้!

เขียนคำตอบ

ช่องที่จำเป็นถูกทำเครื่องหมายด้วยดาว *