อักษรจีนตัวย่อ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
อักษรจีนตัวย่อ (จีนตัวย่อ: 简体字/简化字; จีนตัวเต็ม: 簡體字/簡化字; พินอิน: jiǎntǐzì/jiǎnhuàzì เจี่ยนถี่จื้อ/เจี่ยนฮั่วจื้อ) เป็นหนึ่งในสองรูปแบบอักษรจีนมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน อักษรจีนตัวย่อประดิษฐ์และเริ่มใช้โดยรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนของสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ใน พ.ศ. 2492 เหตุที่ต้องเรียกว่าอักษรจีนตัวย่อ หรือ Simplified Chinese character ก็เพื่อให้แตกต่างจากอักษรจีนมาตรฐานอีกรูปแบบหนึ่งที่ในปัจจุบัน นั่นคือ อักษรจีนตัวเต็ม หรือ Traditional Chinese Character (อักษรจีนดั้งเดิม)
อักษรจีนตัวย่อ | |
---|---|
![]() | |
ชนิด | อักษรภาพ |
ช่วงยุค | ตั้งแต่ต้นคริสตศตวรรษที่ 20 |
ทิศทาง | ซ้ายไปขวา ![]() |
ภาษาพูด | ภาษาจีน ใช้เป็นอักษรทางการใน
|
อักษรที่เกี่ยวข้อง | |
ระบบแม่ | อักษรจีนตัวเต็ม
|
ระบบพี่น้อง |
|


อักษรจีนตัวย่ออาจถูกเรียกโดยชื่ออย่างเป็นทางการว่า (简体字; ) หมายถึงการทำให้เข้าใจง่ายของตัวอักษร "โครงสร้าง" หรือ "รูปร่าง" เนื่องจากอักษรจีนตัวเต็มมีรูปแบบตัวอักษรแบบดั้งเดิมและโบราณ ที่มีอยู่เป็นนับพันปีมีความยุ่งยากและซับซ้อนในการเขียนมาก ในทางตรงกันข้ามอักษรจีนตัวย่อชื่ออย่างเป็นทางการหมายถึง ชุดอักขระที่เรียบง่ายทันสมัยอย่างเป็นระบบซึ่ง (ตามที่ระบุไว้โดยประธานเหมา เจ๋อตงในปี ค.ศ. 1952) ไม่เพียงแต่รวมถึงการลดความซับซ้อนของโครงสร้าง แต่ยังลดจำนวนตัวอักษรจีนให้ได้มาตรฐานอีกด้วย
ในปัจจุบันอักษรจีนตัวเต็มได้ใช้อย่างเป็นทางการในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบการเขียนดั้งเดิมของอักษรจีนตัวเต็มไว้เป็นอักษรทางการ นอกจากนี้อักษรจีนตัวเต็มยังใช้ใน ฮ่องกง มาเก๊า และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนก่อนการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย
ส่วนอักษรจีนตัวย่อใช้กันใน สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) สิงคโปร์ และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนหลังการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนมากยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็มเป็นหลัก แต่สำหรับการสอนภาษาจีนตามสถานศึกษาในประเทศไทยส่วนมากจะใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อให้เป็นแบบแผนเดียวกันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ประวัติ
จีนแผ่นดินใหญ่
การเมือง


แม้ว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้เริ่มใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างจริงจังใน พ.ศ. 2492 แต่อักษรจีนตัวย่อก็ปรากฏก่อนหน้านั้นมานานแล้ว โดยเฉพาะการเขียนแบบหวัด และในสมัยราชวงศ์จิ๋น (พ.ศ. 322 - 337) ได้นำมาใช้ในการพิมพ์ ในสมัยที่พรรคก๊กมินตั๋งปกครองประเทศจีนอยู่นั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและนักเขียนก็ได้เสนอความคิดว่า การใช้อักษรจีนตัวย่อจะช่วยเพิ่มอัตราการอ่านออกเขียนได้ของชาวจีนมากขึ้น สาเหตุที่สมัยก่อน มีประชาชนรู้หนังสือน้อยก็เพราะว่าภาษาจีน ใช้ระบบตัวอักษรรูปภาพ หนึ่งตัวแทนหนึ่งเสียง-หนึ่งคำ ดังนั้นจึงมีตัวอักษรจำนวนมหาศาล ต่างกับหลายภาษาทั่วโลก ที่ใช้ระบบอักษรผสมตัวอักษรสะกดแทนเสียง
ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีการออกประกาศใช้อักษรจีนตัวย่อครั้งแรก 2 ฉบับ คือใน พ.ศ. 2499 และ พ.ศ. 2507 ในระหว่างที่พึ่งมีการประกาศใช้นั้น เกิดความสับสนในการใช้ตัวอักษรจีนอย่างมาก ตัวอักษรที่ใช้ในครั้งนั้นเป็นตัวอักษรย่อบางส่วนผสมกับตัวอักษรดั้งเดิม และได้มีการประกาศใช้อักษรจีนตัวย่อครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่า 二简 เอ้อร์เจี่ยน ในพ.ศ. 2520 ในช่วงของการปฏิวัติวัฒนธรรม โดยฝ่ายซ้ายจัดในประเทศจีน แต่ในการประกาศใช้ครั้งที่ 2 นี้ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร จนถึง พ.ศ. 2529 ได้ยกเลิกการประกาศครั้งที่ 2 นี้ไป ในขณะเดียวกัน ก็มีการแก้ไขการประกาศใช้อักษรจีนตัวย่อครั้งที่ 1 ถึง 6 ครั้ง (รวมถึงการนำตัวอักษรดั้งเดิม 3 ตัวมาใช้แทนตัวอักษรที่ย่อไปแล้วในประกาศครั้งที่ 1 ได้แก่ 叠, 覆, 像) อย่างไรก็ตาม แม้อักษรจีนตัวย่อตามประกาศใช้ครั้งที่ 2 จะถูกยกเลิกไป แต่ระหว่างนั้นก็ได้มีการสอนในโรงเรียนไปแล้ว และยังใช้ในการเขียนพู่กันด้วย
นอกจากนี้ การใช้อักษรจีนตัวย่อในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นจุดเริ่มต้นของการยกเลิกอักษรเขียนแทนเสียงแบบเก่า และจุดกำเนิดของการเขียนแทนเสียงแบบพินอิน หรือ ฮั่นอวี่พินอิน (Hanyu Pinyin) อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปตัวอักษรจีนไม่ได้รับความนิยมมากเหมือนอย่างที่ฝ่ายซ้ายจัดคาดไว้แต่แรก หลังจากการยกเลิกประกาศครั้งที่ 2 ไปแล้ว ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งมั่นว่าจะรักษาระบบอักษรจีนให้คงที่ และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือนำตัวอักษรจีนตัวเต็ม กลับมาใช้อีกในอนาคต
พรรคคอมมิวนิสต์กลัวว่าประชาชนจะสับสนเกี่ยวความแตกต่างระหว่างอักษรจีนตัวเต็มและอักษรจีนตัวย่อ จึงอ้างเหตุนี้ในการห้ามใช้อักษรจีนตัวเต็มในสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมา พรรคคอมมิวนิสต์เห็นว่าสิ่งพิมพ์ในประเทศยังมีการใช้อักษรจีนตัวเต็มอยู่ จึงได้ออกกฎหมายภาษาและตัวอักษรแห่งชาติขึ้น อธิบายไว้ว่า ในทั่วทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ อักษรจีนตัวเต็มมิได้ถูกห้ามใช้ ส่วนใหญ่จะใช้อักษรจีนตัวเต็มในงานเฉลิมฉลอง การตกแต่งการใช้งานตามประเพณีดั้งเดิม เช่น การเขียนพู่กัน การใช้เพื่อการค้า เช่น ป้ายหน้าร้านและการโฆษณาซึ่งต่อมาส่วนมากใช้อักษรจีนตัวย่อกัน
สาธารณรัฐประชาชนจีนมักจะทำสื่อที่เผยแพร่ใน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า และต่างประเทศ โดยใช้อักษรจีนตัวเต็ม ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์พีเพิ้ลส์เดลี่ที่มีทั้งรูปแบบอักษรจีนตัวเต็มและตัวย่อ เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์พีเพิ้ลส์เดลี่และสำนักข่าวซินหัวที่ให้เลือกอ่านเป็นอักษรจีนตัวเต็ม โดยใช้รหัสอักษร Big5 ตัวอย่างอื่น เช่น นมที่ผลิตในจีนแผ่นดินใหญ่และส่งไปขายในฮ่องกง ก็พิมพ์ฉลากโดยใช้อักษรจีนตัวเต็ม และการปกครองแบบหนึ่งประเทศสองระบบ ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ไม่อยากเปลี่ยนให้ฮ่องกงและมาเก๊ามาใช้อักษรจีนตัวย่อ
สิงคโปร์ และมาเลเซีย
สิงคโปร์ มีการรับอักษรจีนตัวย่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาใช้ 3 ครั้ง
- ครั้งแรก ในพ.ศ. 2512 กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ประกาศให้ใช้ อักษรจีนตัวย่อ 249 ตัว จากอักษรจีนตัวเต็ม 502 ตัว
- ครั้งที่ 2 ในพ.ศ. 2517 ประกาศให้ใช้ อักษรจีนตัวย่อ 2287 ตัว ในครั้งนี้ มีการใช้ต่างจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 49 ตัว
- ครั้งที่ 3 ในพ.ศ. 2519 ประกาศให้ใช้ตัวอักษร 49 ตัว ที่แตกต่างจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในตอนแรก ตามสาธารณรัฐประชาชนจีน
- ในพ.ศ. 2529 ใช้ตัวอักษรตามประกาศใช้ครั้งที่ 1 ฉบับแก้ไข ของในสาธารณรัฐประชาชนจีน
มาเลเซีย มีการประกาศใช้อักษรจีนตัวย่อตามสาธารณรัฐประชาชนจีน ทุกประการ ในพ.ศ. 2524
การต่อต้านในไต้หวัน
อักษรจีนตัวย่อได้รับการต่อต้านและถูกแบนโดยรัฐบาลสาธารณรัฐจีนที่ตั้งอยู่บนเกาะไต้หวัน นำโดยพรรคก๊กมินตั๋ง เนื่องจากเห็นว่าตัวอักษรแบบย่อนั้นเป็นผลผลิตของคอมมิวนิสต์ ที่ทำลายวัฒนธรรมและคุณค่าโบราณนับพันปีของจีน ในปัจจุบันนั้นในไต้หวันยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็มเป็นตัวเขียนอย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้คนในไต้หวันสามารถอ่านตำราเก่าที่ใช้อักษรจีนโบราณอย่างง่ายดาย
พรรคคอมมิวนิสต์จีนในจีนแผ่นดินใหญ่กลับโต้แย้งว่าพวกเขามีมาตรการบังคับใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อส่งเสริมให้มีการเพิ่มของอัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากร เนื่องจากอักษรจีนตัวเต็มนั้นซับซ้อน จดจำยาก ในปี พ.ศ. 2558 ได้มีการประเมินพบว่า ในจีนแผ่นดินใหญ่มีเพียงร้อยละ 3.6 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถอ่านออกและเขียนได้ ส่วนในไต้หวันตัวเลขมีเพียงร้อยละ 1.6 เท่านั้น อย่างไรก็ตามในไต้หวันยังคงมีการต่อต้านอักษรแบบย่อของจีนแผ่นดินใหญ่จนถึงปัจจุบัน
กระบวนการย่อ
การทำให้โครงสร้างของอักขระง่ายขึ้น
ตัวอักษรทั้งหมดที่ทำให้แบบนี้ง่ายขึ้นมีการแจกแจงในตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ใน Jiǎnhuà zì zǒng biǎo (简化字总表), "รายการตัวอักษรตัวย่อที่ถูกต้อง" ประกาศในปี พ.ศ. 2529
- 简化字总表
ตารางที่ 1
แสดงรายการตัวอักษรทั้งหมด 350 ตัวที่ใช้ด้วยตนเองและไม่สามารถทำหน้าที่เป็น "ส่วนประกอบของอักษรแบบย่อที่ทำให้เข้าใจง่าย"
- ตารางที่ 2
แสดงรายการอักษร 132 ตัวที่ใช้ด้วยตนเองรวมถึงใช้เป็นส่วนประกอบของอักษรที่ทำให้เข้าใจง่ายเพื่อให้ได้อักษรที่ง่ายขึ้นอื่น ๆ ตารางที่ 2 ยังแสดงรายการ 14 "องค์ประกอบ" หรือ "ตัวรากศัพท์อักษร" ที่ไม่สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเอง แต่สามารถวางนัยสำหรับการสร้างคำที่มีตัวอักษรที่ซับซ้อนมากขึ้น
การสร้างคำยึดตามหลักส่วนประกอบตัวอักษรตัวย่อแบบง่าย
- ตารางที่ 3
แสดงรายการตัวอักษร 1,753 ตัวที่เป็นตัวย่อยึดตามหลักหลักการย่อตัวอักษร ใช้สำหรับ"องค์ประกอบ" และ "ตัวรากศัพท์อักษร" ในตารางที่ 2
การกำจัดสิ่งที่แตกต่างกัน (อักษรต่างรูป) ของตัวอักษรเดียวกัน
- Dì yī pī yìtǐzì zhěnglǐ biǎo (第一批异体字整理表) เป็นเอกสารรวบรวมสำหรับอธิบายความแตกต่างของการสะกดคำระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่ในด้านหนึ่ง และฮ่องกงและไต้หวันในอีกด้านหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การย่อตัวอักษรที่ทำให้เข้าใจง่ายของโครงสร้างอักษร แต่เป็นการลดจำนวนอักษรมาตรฐานทั้งหมด สำหรับอักษรต่างรูป ที่ใช้การออกเสียงและความหมายเหมือนกันแต่ละชุดอักษรหนึ่งตัว (โดยทั่วไปจะเป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด) จะถูกยกระดับเป็นชุดอักษรมาตรฐานและส่วนที่เหลือจะล้าสมัย หลังจากรอบการแก้ไขในปี พ.ศ. 2536 มีการประกาศตัวอักษรต่าง ๆ จำนวน 1,027 ตัวซึ่งล้าสมัยโดยรายการนี้ ในบรรดาอักษรต่างรูปที่เลือกไว้ที่ปรากฏใน "รายการตัวอักษรตัวย่อที่ถูกต้อง" จะถูกย่อในโครงสร้างตัวอักษรอย่างสอดคล้อง
การประยุกต์ "รูปแบบอักษรมาตรฐานใหม่"
- รูปแบบอักษรมาตรฐานใหม่ มีต้นกำเนิดมาจาก "รายการรูปแบบของตัวอักษรจีนทั่วไปที่ใช้สำหรับการตีพิมพ์เผยแพร่" ที่มีตัวอักษร 6,196 ตัวตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2508 รูปแบบใหม่มีแนวโน้มที่จะนำ ตัวอักษรแบบหวัด (Vulgar Variant) มาใช้สำหรับอักษรส่วนใหญ่
การย่อโครงสร้างของตัวอักษรให้ง่ายขึ้น
ตัวอักษรทั้งหมดที่ทำให้เป็นตัวย่อจะมีการแจกแจงในตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ใน รายการตัวอักษรตัวย่อที่ถูกต้อง ตัวอักษรในตารางทั้งสองมีโครงสร้างที่เรียบง่ายขึ้นอยู่กับชุดของหลักการที่คล้ายกัน ตัวอักษรจะถูกแยกออกเป็นสองตารางเพื่อทำเครื่องหมายอย่างชัดเจนในตารางที่ 2 ว่า 'ใช้งานได้เป็นส่วนประกอบตัวอักษรแบบย่อ' โดยอิงจากตารางที่ 3 ที่ได้รับมา
การแทนที่ตัวอักษรเดิมด้วยตัวอักษรอื่นที่มีอยู่ซึ่งฟังเหมือนกันหรือคล้ายกัน:
- เช่น 穀 → 谷; 醜 → 丑; 蘋 → 苹; 鬆 → 松; 隻 → 只; 乾、幹 → 干; 髮 → 发; เป็นต้น
ใช้รูปแบบของตัวอักษรโค้ง (草書楷化):
- เช่น 書 → 书; 長 → 长; 當 → 当; 韋 → 韦; 樂 → 乐; 車 → 车; 興 → 兴; 發 → 发; 東 → 东; 專 → 专;
過 → 过; 報 → 报; 爾 → 尔; 盡 → 尽; 學 → 学; เป็นต้น
การเปลี่ยนส่วนประกอบของตัวอักษรด้วยสัญลักษณ์อย่างง่าย เช่นตัว (又) และ ตัว (乂):
- เช่น 對 → 对; 觀 → 观; 歡 → 欢; 難 → 难; 鳳 → 凤; 風 → 风; 這 → 这; 劉 → 刘; เป็นต้น
การละเว้นองค์ประกอบของตัวอักษรตัวเต็ม:
- เช่น 廠 → 厂; 廣 → 广; 誇 → 夸; 習 → 习; 寧 → 宁; 滅 → 灭; 親 → 亲; 業 → 业; 鄉 → 乡; 餘 → 余; 氣 → 气; เป็นต้น
เพิ่มเติมตัวอักษรหลังจากละเว้นส่วนประกอบบางอย่าง:
- เช่น 婦 → 妇; 麗 → 丽; 歸 → 归; 顯 → 显; 務 → 务; เป็นต้น
การกำจัดตัวรากศัพท์อักษรออกจากตัวอักษรตัวเต็ม
- เช่น 麼 → 么; 開 → 开; 裡 → 里; 餘 → 余; 關 → 関 → 关; เป็นต้น
อ้างอิง
- อ้างอิงจากประกาศอย่างเป็นทางการ: 汉字简化方案 , 简化字总表 , และอื่น ๆ.
- 黄加佳 (10 May 2012). younghuang (บ.ก.). "书同文 :《汉字简化方案》制订始末" (ภาษาจีน). 新华网. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-02. สืบค้นเมื่อ 1 November 2019 – โดยทาง 腾讯新闻.
- ตัวอย่างทั้งหมดที่ระบุไว้ที่นี่มีที่มาจาก 简化字#字型結構簡化#簡化方法 ที่รายการทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับการอ้างอิงที่เหมาะสม
บรรณานุกรม
- Huang, Jack; Huang, Tim (1989). Introduction to Chinese, Japanese, and Korean Computing. World Scientific publishing. ISBN 9971506645.
วิกิพีเดีย, วิกิ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, มือถือ, โทรศัพท์, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, แอปเปิ้ล, สมาร์ทโฟน, พีซี, เว็บ, คอมพิวเตอร์, ข้อมูลเกี่ยวกับ อักษรจีนตัวย่อ, อักษรจีนตัวย่อ คืออะไร? อักษรจีนตัวย่อ หมายความว่าอะไร?
ฝากคำตอบ
ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือไม่?คุณสามารถร่วมเขียนได้!